MGR Online -“รองอธิบดีดีเอสไอ” ระบุศาลพิพากษาให้บริษัท อีซี่เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง ชดใช้ทรัพย์สินคืนผู้เสียหาย 444 ราย กว่า 10 ล้านบาท หลังหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่แต่ไม่มีธุรกิจจริง
วันนี้ (5 พ.ย.) พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.มีการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาการเฉลี่ยคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้เสียหายตามคำพิพากษาในคดีพิเศษที่ 79/2550 กรณีบริษัท อีซี่เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กับพวก ในความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือแชร์ลูกโซ่ ที่มีพฤติการณ์หลอกลวง ชักชวนให้ประชาชนเข้าฟังการบรรยายแผนการตลาด แล้วชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร มีประชาชนผู้เสียหายหลายหมื่นคนร่วมลงทุนประกอบธุรกิจ โดยผู้ร่วมลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนคืนกว่าร้อยละ 275.86 ต่อปีของเงินลงทุน ทั้งที่ไม่มีการประกอบธุรกิจอันมีรายได้ตามที่โฆษณาจริง และมีลักษณะเป็นการนำเงินของผู้เสียหายหมุนเวียนจ่าย โดยนำเงินรายหลังๆ มาจ่ายให้รายแรกๆ จนเกิดความเสียหายต่อประชาชน มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
พ.ต.อ.อัครพลเผยอีกว่า ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 79/2550 และพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญา บัดนี้ ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกจำเลย รวมทั้งให้จำเลยที่เกี่ยวข้องชดใช้คืนทรัพย์สินแก่ผู้เสียหายในคดี รวม 444 ราย ซึ่งต้องนำทรัพย์สินที่ยึดในคดีมาเฉลี่ยทรัพย์ตามคำพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กำหนดให้ต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงเชิญผู้แทนกรมบังคับคดีซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการบังคับคดีแพ่ง มาให้คำปรึกษาและแนะนำในการกำหนดกระบวนงานและขั้นตอนเพื่อความรอบคอบและให้เป็นไปตามกฎหมาย เบื้องต้นมูลค่าทรัพย์ที่จะต้องเฉลี่ยคืนเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท โดยเมื่อกำหนดวิธีการและจำนวนเงินที่จะเฉลี่ยคืนผู้เสียหายตามสัดส่วนเสร็จแล้ว คณะทำงานก็จะเสนออธิบดีดีเอสไอเห็นชอบ ประกาศต่อสาธารณชน และดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป
“ขอชี้แจงว่าดีเอสไอมีความตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ซึ่งรอที่จะได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ตามคำพิพากษา แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยรอบคอบ โปร่งใส และให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากผู้เสียหายในคดีดังกล่าวมีข้อสงสัย สามารถติดต่อที่ได้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อาคารศูนย์ราชการฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือโทรศัพท์ 1202 ต่อกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ”