MGR Online - “ลุงพล-อุ๊บ” เข้าแจ้งความ บก.ปอท. เอาผิดเพจเฟซบุ๊กปลอมใช้ชื่อ “ลุงพล-ไชย์พล” โพสต์ภาพและข้อความตัดต่อหมิ่นเบื้องสูง ยันยินดีช่วยตำรวจจับคนร้ายตัวจริง
วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล พร้อมด้วย “อุ๊บ” วิริยะ พงษ์อาจหาญ ผู้จัดการดาราชื่อดัง, นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และ ทนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีบุคคลที่สร้างเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ลุงพล-ไชย์พล” โดยนำภาพ ลุงพล กับ อุ๊บ วิริยะ ไปตัดต่อกับข้อความในลักษณะหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อาจสร้างความเข้าใจผิดและเสียหาย
นายไชย์พล กล่าวว่า มีบุคคลนำภาพและชื่อตนไปสร้างเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ประมาณ 2 เดือน ซึ่งมีการตัดต่อภาพเพื่อสร้างความเสียหายและเข้าใจผิด รวมทั้งโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมในลักษณะหมิ่นเบื้องสูง พบว่า ในกลุ่มมีสมาชิกกว่า 5 หมื่นคน ตนขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะมันส่งผลเสียทั้งกับตนและตัวผู้กระทำเอง
นายไชย์พล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีตำรวจแถลงข่าวคดีน้องชมพู่ เรื่องเวลาหายตัวไปช่วง 09.11-09.49 น. ของวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ต้องย้อนดูว่า พ่อแม่น้องชมพู่ปล่อยให้อยู่กับน้องสะดิ้งตามลำพังตั้งแต่เวลาใดบ้าง พร้อมตรวจสอบบริเวณรอบบ้านด้วยว่ามีใครอยู่หรือไม่ เพราะมีช่วงเวลาที่ตนเองอยู่กับป้าแต๋นเพียง 2 คน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่ชัดเจนมากนัก ซึ่งสถานะผู้ต้องสงสัยของตนยังคลุมเครือ แต่ก็พอใจที่ ผบ.ตร.ยังไม่ปิดคดี ทราบว่า ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมเพราะบริเวณที่น้องหายตัวไปจะสำคัญที่สุด ทั้งนี้ ตนยินดีเข้าเครื่องจับเท็จและหากเชิญไปสอบปากคำอีกก็มีความยินดีตลอด
ด้าน ทนายกฤษฎา กล่าวว่า มีผู้ไม่หวังดีตัดต่อภาพศีรษะและลำตัวของลุงพล กับ อุ๊บ วิริยะ ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม มีคอมเมนต์และแชร์จำนวนมาก เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14, มาตรา 16 รวมถึงความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เคยไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.วานรนิวาส จ.สกลนคร มาก่อนแล้ว
“ขอร้องสื่อมวลชนช่วยระมัดระวังการนำเสนอข่าว เพราะบางครั้งเป็นการชี้นำทำให้สังคมแบ่งแยก ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังคงหาหลักฐานอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่" ทนายกฤษฎา กล่าว
ส่วนทาง นายจีรพันธ์ กล่าวว่า ตนสงสัยช่วงไทม์ไลน์ เพราะมีคนในสายเลือดโพสต์ตามหาเด็กหาย ช่วง 07.00-09.00 น. ซึ่งยังไม่เป็นคดี จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวด้วย และเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ แต่เมื่อถึงเวลาแถลงข่าว ตำรวจกลับระบุถึงช่วงเวลาที่น้องหายไปอีกช่วงหนึ่ง จึงต้องการให้ชุดสืบสวนไปตามสอบถามข้อมูลกับบุคคลรายนี้ด้วย ตนเชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกัน