MGR Online - ม.ธรรมศาสตร์ ประสาน บก.น.6 ขอกำลังตำรวจ สั่งปิดแล้ว 5 เส้นทางใกล้ชุมนุม ห้ามเข้าใกล้ “พระบรมหาราชวัง-ศาลฎีกา-ทำเนียบ” ชี้ พังประตูเริ่มต้นความผิดแล้ว ตร.แจงภาพถือโล่กระบองแค่ฝึกซ้อม เผยตัวเลขม็อบยังไม่นิ่ง 1 พันราย ย้ำรอบนี้ไม่มีตัดสัญญาณ
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ ว่า เรื่องที่ 1 บช.น.อยากฝากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าด้วยตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 ห้ามมิให้มีการชุมนุมในระยะ 150 เมตร จากพระบรมหาราชวังเป็นเขตพระราชฐาน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเพิ่งออกคำสั่งในวันนี้ เนื่องจากดูตามความเหมาะสม พฤติกรรม และความจำเป็นของพื้นที่
เรื่องที่ 2 บช.น.มีคำสั่งที่ 376/2563 เรื่อง ห้ามการชุมนุมสาธารณะรัศมีไม่เกิน 50 เมตร จากพื้นที่สำคัญ อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การชุมนมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 7 วรรคท้าย ประกาศห้ามมีการชุมนุมในระยะ 50 เมตร คือรอบพื้นที่ศาลฎีกา และทำเนียบรัฐบาล และเรื่องที่ 3 ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและสื่อมวลชนทราบว่า บช.น.มีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีบ้านเรือนบริเวณใกล้สนามหลวง มธ.ท่าพระจันทร์ หรือมีธุระใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว
บช.น.มีข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรปิดถนนบริเวณใกล้เคียง มธ.ท่าพระจันทร์ ได้แก่ 1. ถนนราชินี (ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า-ถนนราชดำเนินใน) 2. ถนนราชดำเนินใน (เลียบสนามหลวง-ถนนสนามไชย) 3. แยกวงเวียน รด.และแยกท้ายวัง-ถนนมหาราช-ถนนพระจันทร์ 4. ถนนหน้าพระธาตุ และ 5. ถนนหน้าพระลาน ขณะนี้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ายังสามารถสัญจรได้ แต่การเคลื่อนตัวยังทำความเร็วได้ไม่มาก เส้นทางหลีกเลี่ยงสามารถใช้สะพานกรุงธน (ซังฮี้) และสะพานพุทธ ได้
ขณะเดียวกัน บช.น.ได้ประสาน มธ.ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปตามกฎหมายและปราศจากอาวุธ ขณะนี้ มธ.ท่าพระจันทร์ ได้ประสานกับทาง บก.น.6 เราพร้อมถ้ามีการขอกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ก่อนหน้านี้ปรากฏภาพตำรวจถือโล่และกระบอง ดูแล้วอาจจะเป็นการสร้างความรุนแรง ชี้แจงว่าภาพที่ปรากฎเป็นการฝึกซ้อมตามวงรอบปกติ ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ตำรวจมากับตัวและหัวใจไม่มีโล่และกระบอง
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่พังประตูเข้าไปในบริเวณ มธ.ท่าพระจันทร์ ถือว่ามีความผิด ในการดำเนินคดีถ้าบุกรุกเข้าไปสถานที่ส่วนบุคคล ต้องรอเจ้าของสถานที่เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ หากเจ้าของสถานที่ไม่เอาเรื่องตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการกระทำความผิดอาญาต่อแผ่นดิน เช่น ผิดข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินคดีได้ทันที โดยไม่ต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ
การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไป มธ.ท่าพระจันทร์ เป็นสิ่งที่ทางแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมมีความต้องการอยู่แล้ว ในส่วนของตำรวจได้วางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยตามที่เจ้าของสถานที่ร้องขอ เพื่อไม่ให้มีการเติมความวุ่นวายจากบุคคลที่สามสร้างสถานการณ์ไม่ดีขึ้นมา ตำรวจพยายามอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้ประชาชนที่ต้องการใช้ชีวิตตามปกติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากความห่วงใย โดยให้ตำรวจบังคับใช้กฎหมายด้วยความอดทน ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด
สำหรับจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมในขณะนี้ สามารถคำนวณได้จากพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ ประกอบกับสภาพดินฟ้าอากาศ สภาพทางกายภาพ จำนวนที่แน่ชัดคงต้องรอให้ถึงระยะเวลาจริง จึงจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นประมาณ 1,000 ราย ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปใน มธ.ท่าพระจันทร์ แต่ทางแกนนำเป็นคนพังประตูเข้าไปด้วยนั้น ต้องไปดูรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ยอมให้เข้าไป หรือเป็นการพังเข้าไปเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่
“การพังประตูเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำความผิดกฎหมาย แต่จะดำเนินคดีกับใครข้อหาอะไรเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ที่แน่ๆ เริ่มมีการฝ่าฝืนกฎหมายในบางส่วนแล้ว” รองโฆษก ตร.กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมใส่เสื้อ หรือเขียนข้อความสุ่มเสี่ยงต่อการหมิ่นสถาบัน ตำรวจจะมีการตักเตือน หรือดำเนินคดีอย่างไรนั้น ก็ต้องดูว่าการที่มีข้อความในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดในองค์ประกอบส่วนใดบ้าง ถ้ามีความผิดพนักงานสอบสวนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว เรื่องการตัดสัญญาณยังไม่มี ยกเว้นอาจจะมีในจุดที่มีความสุ่มเสี่ยง อย่างเช่น กรณีที่ผ่านมาพบวัตถุต้องสงสัย ก็เป็นยุทธวิธีของหน่วยอีโอดีที่จะต้องตัดสัญญาณ
ทั้งนี้ การกระจายตัวไปทำกิจกรรมในจุดต่างๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุม ตำรวจมีการข่าวทั้งหมดแล้ว หากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะนี้กำลังของตำรวจมีเพียงพอ โดยที่ มธ.ท่าพระจันทร์ มีกำลังตำรวจ 12 กองร้อยผลัดเปลี่ยนกำลัง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมจะพักค้างคืนได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าของพื้นที่ และกรณีปรากฏภาพชายชุดดำลักษณะยืนสังเกตการณ์อยู่บนดาดฟ้า อาคารวารสารศาสตร์และสื่อมวลชน ใกล้บริเวณพื้นที่ชุมนุม จากการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ใช่ตำรวจ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใด ตนไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมเองหรือไม่.