แม่พาลูกสาววัย 5 ขวบ ร้องทุกข์ “ปวีณา” ขอให้ช่วยติดตามคดี หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังลูกสาวถูกเด็กชาย 3 คน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ป.5 ล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำโรงเรียน ด้าน “ปวีณา” ประสาน สพฐ. หารือและรับฟังข้อเท็จจริงจากปากแม่และลูกสาว 5 ขวบ เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ในโรงเรียนขึ้นอีก
สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ย. 63 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาวตนชื่อ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังลูกกลับจากโรงเรียนตนได้อาบน้ำให้ลูก และลูกบอกว่า เจ็บที่อวัยวะเพศ เมื่อเปิดดูเห็นอวัยวะเพศเป็นรอยบวมแดงและลูกเริ่มมีไข้ เช้าวันที่ 9 ก.ย. ตนได้พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.คำม่วง แพทย์ระบุว่า อวัยวะเพศฉีกขาด และบอกให้ตนพาลูกเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนจึงได้สอบถามลูกสาวอยู่นาน ซึ่งลูกเอาแต่ร้องไห้ ก่อนจะบอกว่า ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ ป.5 จำนวน 3 คน หลอกพาเดินไปที่ห้องน้ำ ระหว่างที่จะเดินไปซื้อขนม แล้วทั้ง 3 คน ได้ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะข่มขู่ว่าถ้าเอาเรื่องไปบอกพ่อแม่จะจับมาทำอีกรอบ ทำให้ลูกสาวตนมีอาการหวาดกลัวมากไม่กล้าบอกใคร
“ต่อมาตนได้พาลูกสาวไปพบผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อถามถึงการช่วยเหลือและขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางโรงเรียนเปิดให้ดูนิดเดียวช่วงที่เด็กเข้าออกอาคารอนุบาล ก่อนที่ตนจะพาลูกไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เรื่องนี้ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่า เด็กชายที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน จะไปทำกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ อีก ซึ่งตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย” น.ส.เอ กล่าว
หลัง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องวันเสาร์ที่ 12 ก.ย. ได้ประสาน พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ทันที เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกฝ่าย ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด คาดว่า เหตุน่าจะเกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้าน พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.คำม่วง จึงได้รายงานไปยัง พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และรายงานความคืบหน้าคดีให้กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยตลอด
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถ.รังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ได้พา ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ ลูกสาวเดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีและขอความเป็นธรรม
โดย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อร่วมประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ ด.ญ.บี และครอบครัว และรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย เพื่อหามาตรการป้องกันแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ในโรงเรียนขึ้นอีก
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ แม่บอกว่าเด็กมีอาการหวาดผวา เอาแต่ร้องไห้ สภาพจิตใจยังย่ำแย่ อีกทั้งที่ช่องคลอดยังมีน้ำเหลือไหลออกมา และขอให้ช่วยย้ายโรงเรียนลูกสาว ทั้งนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะได้พา ด.ญ.บี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และพบนักจิตวิทยาเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ และจะประสานกับ ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. เพื่อขอให้ย้ายโรงเรียนให้กับ ด.ญ.บี และขอให้ตรวจสอบโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก ปัจจุบันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงที่มีอายุน้อยๆ มีมากขึ้น ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องดูแลอบรมลูกอย่างใกล้ชิด
นางปวีณา กล่าวอีกว่า กรณีนี้เหตุเกิดขึ้นในห้องน้ำของโรงเรียนอีกแล้ว ลักษณะเหมือนกับหลายเคสที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญคือปัญหาในโรงเรียนที่จะต้องแก้ไข ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ มีศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ เป็น 1 ในคณะทำงาน ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องแก้ ในบริเวณที่เป็นมุมอับจะต้องมีกล้องวงจรปิด ส่วนห้องน้ำโรงเรียนก็ไม่ควรไปตั้งอยู่ในจุดเปลี่ยว หากมีอะไรเกิดขึ้นทางโรงเรียนจะต้องไม่กลัวเสียชื่อเสียง ให้เห็นความสำคัญของเด็กเป็นหลัก
