เหยื่อแจ้งจับอู่ซ่อมรถ ตื๊อทำประกันก่อนเอารถไปชนฮุบเงินเคลม

MGR Online - เหยื่อเข้าแจ้งความตำรวจบางเขนเอาผิดอู่ซ่อมรถย่านรามอินทรา โน้มน้าวทำประกันก่อนเอารถเหยื่อไปชนคู่กรณี เรียกเอาเงินค่าสินไหม

วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ สน.บางเขน น.ส.กัญณัฏฐ์ แสงไกรชัยกิจ พร้อม น.ส.พิชญา (นามสมมติ) เข้าพบ พ.ต.ต.ธนศักดิ์บริรักษ์นรากุล สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อเจ้าของอู่รถยนต์ย่านรามอินทรา ที่โน้มน้าวให้ทำประกันภัยรถยนต์ก่อนนำรถไปเฉี่ยวชนกับคู่กรณีเพื่อเรียกเงินค่าสินไหมกว่า 120,000 บาท พร้อมนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

น.ส.กัญณัฏฐ์กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาไปสอบถามราคาค่าทำสีกับอู่เพื่อเปลี่ยนสีรถยนต์ ราคา 20,000 บาท จากนั้นเจ้าของอู่โน้มน้าวให้ซื้อประกันภัยรถยนต์เพราะตนไม่ได้ทำไว้ อู่อ้างว่าบริษัทประกันสามารถเข้ามาเคลมค่าใช้จ่ายทำสีรถได้ และอู่จะลดราคาให้ครึ่งหนึ่งจึงตกลงซื้อประกันภัยจากบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนไปทำสีวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมวางเงินมัดจำ 5,000 บาท โดยเจ้าของอู่ให้นำสมุดบัญชีธนาคารเเละบัตรเอทีเอ็มฝากไว้ที่อู่รถด้วยเพื่อเป็นการเบิกจ่ายเคลมประกันเงินทำสี

น.ส.กัญณัฏฐ์กล่าวอีกว่า พอเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาไปรับรถพบว่าทำสีไม่เต็มคันตามที่ตกลงไว้ เจ้าของอู่จึงลดราคาส่วนที่ค้างจ่าย 5,000 บาท เมื่อตรวจเช็กสภาพรถอย่างละเอียดพบว่าอะไหล่อุปกรณ์ภายในถูกถอดออกและระบบไฟทั้งหมดมีปัญหาจึงนำรถไปซ่อมที่อู่เดิมอีกครั้งเพราะคิดว่าอู่ทำงานไม่เรียบร้อย พอกลับมารับรถกลับพบว่ารถมีสภาพชำรุดหนักกว่าเดิมจึงสอบถามบริษัทประกัน ทราบว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีการเคลมประกันเฉี่ยวชนเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนถึง 6 ครั้ง รวมค่าสินไหมกว่า 1.2 แสนบาทที่ถูกกดออกไปจากบัตรเอทีเอ็ม เมื่อตรวจสอบก็ทราบว่ารถถูกขับไปชนกับรถของ น.ส.พิชญา ที่พุทธมณฑลสาย 3 จึงไปแจ้งความที่ สน.บางรัก ท้องที่ตนพักอาศัย โดยตำรวจรับไว้เป็นคดีแล้ว และมาแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงกับทำให้เสียทรัพย์ที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.พิชญากล่าวว่า เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เอารถมาทำสีที่อู่นี้เพราะรับคำแนะนำมาว่าอู่นี้รับทำสีรถและราคาไม่แพง ทั้งยังเห็นว่ามีรถจอดเยอะมีคนเข้าออกมากจึงมาเปลี่ยนสีรถก่อนที่จะถูกโน้มน้าวให้ทำประกันภัยเหมือนกันซึ่งอู่ดำเนินการให้ทุกอย่าง ตนมีหน้าที่จ่ายเงินแล้วรับเล่มกรมธรรม์ออกมาเท่านั้น พอถึงวันนัดรับรถพบว่าทำสีรถไม่เต็มทั้งคัน และแอร์ไม่เย็น ขับแล้วเหมือนเครื่องจะดับ รวมถึงพวงมาลัยแข็ง จึงไปซ่อมที่อู่อื่นเพราะไม่สบายใจที่จะให้อู่เดิมทำแล้ว

น.ส.พิชญากล่าวว่า เห็นข่าวของ น.ส.กัญณัฏฐ์ก็พบว่ามีรถตนเป็นรถคู่กรณีจึงหาทางติดต่อ พร้อมสอบถามประกันก็ทราบว่าที่ผ่านมารถตนถูกชนไป 8 ครั้ง เคลมประกัน 3 ครั้งเป็นเงิน 9 หมื่นกว่าบาท จึงไปเรียกร้องค่าเสียหายกับอู่นี้ แต่กลับถูกปฏิเสธ โดยเจ้าของอู่อ้างจะรับผิดชอบทุกอย่าง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมพิจารณาประกอบพยานหลักฐานก่อนดำเนินการตาขั้มนตอนต่อไป