ผบ.หมู่สายตรวจจราจร ใช้อาวุธปืนพกยิงขมับตัวเองเสียชีวิต ภายในอพาร์ตเมนต์ย่านบางเขน แฟนสาวเผยแค่ถามว่า “ทำไมถึงไม่ยอมซักผ้า” ผู้ตายพูดเพียงว่า “เวลา 02.30 น.จะไปแล้ว”
เมื่อเวลา 03.20 น.วันที่ 11 ก.ย. ร.ต.ท.พงศธร วชิรโชติกุล รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุมีชายใช้อาวุธปืนยิงตัวตายภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยวิภาวดี 60 แยก 7 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์แผนกนิติเวช รพ.ภูมิพลฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ภายในห้องพักชั้น 4 พบศพ ส.ต.อ.สุริยา สุวรรณรัตน์ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น สีแดง ที่บริเวณหว่างขา พบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ตกอยู่ จากการตรวจสอบตามร่างกาย พบมีบาดแผลยิงเข้าที่ขมับด้านขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานที่เกิดเหตุไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบปากคำแฟนสาวของผู้ตายให้การว่า หลังเลิกจากทำงาน ก็กลับมาถึงที่ห้องพัก ในเวลา 02.00 น. ก็พบว่า ผู้ตายได้นั่งเล่นอยู่ภายในห้อง โดยไม่สวมเสื้อ ตนจึงได้พูดถามว่า “ทำไมถึงไม่ยอมซักผ้า” โดยผู้ตายได้พูดบอกเพียงว่า “เวลา 02.30 น.จะไปแล้ว” จึงถามกลับว่า “จะไปทำงานหรือ” ซึ่งระหว่างที่ตนนั่งเอาพัดลมเป่าผม จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ตนตกใจและหันไปมองก็เห็นแฟนหนุ่มใช้อาวุธปืนยิงตัวเองนอนจมกองเลือด จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ที่อยู่ห้องด้านล่าง และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุด
ด้านเพื่อนสนิทของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ตายก็ไม่เคยพูดเล่าเรื่องปัญหาส่วนตัวแต่อย่างใด และเวลาที่ดื่มสุรากันก็จะสนุกสนานอยู่ตลอด ไม่มีอาการเครียด ซึ่งแต่ก่อนรู้เพียงว่าเคยมีปัญหาทะเลาะกันกับแฟนสาว แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงที่จะลงมือทำร้ายกัน หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็จะคืนดีกันตลอด ส่วนที่ผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองนั้น ก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติผู้ตายหลังทราบข่าว จึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที โดยเปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไปกินข้าวกับพ่อแม่และครอบครัว ขณะนั้นก็เห็นว่า ผู้ตายร่าเริงเป็นปกติดี ซึ่งนิสัยส่วนตัวผู้ตายจะเป็นคนไม่ค่อยพูดเล่าถึงเรื่องปัญหาส่วนตัวจะเก็บเอาไว้คนเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเรียกแฟนสาวของผู้ตายเข้าให้ปากคำอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรนิติเวชโรงพยาบาลภูมิพล ก่อนมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป