MGROnline - ศาลอาญาสั่งปล่อยตัว “อานนท์-ไมค์ ระยอง” แกนนำม็อบปลดแอก จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังตำรวจสำราญราษฎร์ ขอให้ศาลยกเลิกการฝากขัง อ้างทำการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (7 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีศาลไต่สวนเพิกถอนประกัน นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำกลุ่มปลดแอก และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออก สองผู้ต้องหาในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตาม ป.อาญา มาตรา 116 และข้อหาอื่น
เนื่องจากไปร่วมชุมนุมปราศรัยกับมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกันนายอานนท์ เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ในลักษณะที่อาจเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ ศาลอนุญาตฝากขังและปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2563 กำหนดวงเงินประกันคนละ 1 แสนบาท ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้น ถือว่าผิดสัญญาประกัน
ซึ่งหลังไต่สวนเสร็จแล้ว ศาลเห็นว่า นายอานนท์ กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว และออกหมายขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ส่วนนายภาณุพงศ์นั้น ศาลให้โอกาสโดยให้เพิ่มหลักทรัพย์ประกันตัวเป็น 2 แสนบาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่ปรากฏว่านายภานุพงศ์ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวเข้ามาใหม่ จึงถูกนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ในวันนี้ พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้ยกเลิกการฝากขัง นายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหาทั้งสองราย โดยระบุเหตุผลในคำร้องว่าได้ทำการสอบสวนมาพอสมควรแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องขังผู้ต้องหาทั้งสองระหว่างการสอบสวนอีกต่อไป
ศาลพิจารณาแล้ว ให้ออกหมายปล่อยผู้ต้องหาทั้งสอง โดยแจ้งทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทราบแล้ว
ขณะที่ เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) ร่วมกับ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) จัดกิจกรรม ถามหาความยุติธรรมในกระบวนการที่ออกหมายจับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น.โดยทางตำรวจ สน.พหลโยธิน จัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 40 นาย มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย
ต่อมา นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความ “ดา ตอร์ปิโด” อดีตผู้ต้องหาในคดี ม.112 ได้นำเครื่องเสียงมาตั้งอยู่หน้าศาล โดยมีมวลชน 30 ราย คอยชูป้ายเขียนข้อความให้ปล่อยตัวนายอานนท์ กับ นายภาณุพงศ์ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนถือภาพบุคคลทั้งสอง พร้อมเรียกร้องให้ศาลอาญา ปล่อยตัว นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ เนื่องจากการเพิกถอนประกันก่อนส่งคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่เป็นธรรม
ต่อมามีตัวเเทนผู้ชุมนุมเยาวชนอ่านบทกวีของนายอานนท์ พร้อมพากันชู 3 นิ้ว เเล้วตะโกนให้ปล่อยบุคคลทั้งสอง ต่อมาเวลา 16.00 น.ฝนเริ่มตกลงมาผู้ชุมนุมจึงได้ประกาศเเยกย้ายกันกลับ
ต่อมาเมื่อเวลา 17.15 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ได้รับการปล่อยตัวภายหลังถูกคุมขังได้เพียง 5 วัน โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินออกมาส่งทั้งคู่ด้วยตัวเอง
นายอานนท์ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบว่าตำรวจได้เพิกถอนการฝากขังพวกตน มันฉุกละหุกมาก ก่อนได้รับการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็เพียงมาบอกให้กลับไปเท่านั้น แต่การปล่อยตัวครั้งนี้ นับเป็นการให้กำลังใจนักต่อสู้และคนที่โดนคดีทุกคน การต่อสู้ของพวกตนนั้นมีความสำคัญในทุกก้าวย่าง เชื่อว่าจะเป็นบทเรียนของผู้ใช้อำนาจให้ใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือ ยืนยันว่าต่อจากนี้จะมีการยกระดับ และเดินหน้าชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ต่อไป
นายอานนท์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมีคดีมาอีกแน่ แต่เชื่อว่าเราจะชนะร่วมกัน ทั้งฝ่ายเผด็จการ และฝ่ายที่เห็นตรงข้ามกับเรา ยืนยันว่าไม่กังวลหากจะมีคดีความใดอีก เพราะหากจะจับปลา ลงน้ำก็ต้องเปียกอยู่ดี
ด้าน นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ ระยอง กล่าวว่า คุกอาจขังเราได้แค่ตัว แต่ไม่อาจขังอุดมการณ์และความเป็นนักสู้ของเราได้ จากนี้ก็จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อให้ได้จุดหมายเดิมของเราต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่พวกตนตัดสินใจไม่ยอมรับเงื่อนไขการปล่อยตัวของศาล เพราะนั่นเป็นการตีกรอบพวกตนมากเกินไป มันไม่ยุติธรรมกับพวกเรา
นายภาณุพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโทษจำคุกนั้น นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต้องปรับตัวเยอะพอสมควร บรรยากาศภายในเรือนจำไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เราได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้พบเพื่อนที่ดี ไม่มีใครปองร้ายเรา ที่สำคัญ ยังพบพี่เต้น (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) ซึ่งได้ฝากให้กำลังใจพวกตน เพราะยุคนี้ตัวเขาไม่มีสิทธิไปสั่งเด็กๆ ให้ทำหรือไม่ทำอะไรแล้ว มีแต่แรงและกำลังใจให้นักเรียนนักศึกษา