MGR Online - ประธาน กก.สอบข้อเท็จจริงคดี “บอส กระทิงแดง” เตรียมเรียกแพทย์ พยานผู้เชี่ยวชาญ มาสอบประเด็นสารโคเคน ยันหากพิสูจน์ชัดว่ามีการเสพยาก็แจ้งข้อหาเพิ่มได้ พร้อมระบุการแจ้งข้อหาขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวนถูกต้องหรือไม่ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งไปแล้ว
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้จะลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายของตำรวจที่ทำการสอบสวนในขณะนั้น อีกทั้งต้องมีการเรียกแพทย์และพยานมาให้ปากคำอีกหลายปาก โดยเฉพาะในประเด็นพบสารโคเคนในเลือดของนายวรยุทธ ซึ่งจะต้องสอบเพิ่มเติม เพราะเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการเชิญแพทย์มาสอบปากคำ แต่เป็นการแถลงข้อเท็จจริงตามคำให้การและบันทึกการตรวจร่างกายในสำนวนเก่า ทั้งนี้ หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนและคดียังไม่หมดอายุความก็สามารถแจ้งข้อหาการเสพสารเสพติดเพิ่มเติมได้
พล.ต.อ.ศตวรรษ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนไม่แจ้งข้อหาตั้งแต่ตรวจพบโคเคน ว่า การแจ้งข้อหาขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการแต่ต้องพิจารณาว่าการใช้ดุลพินิจนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ ป.ป.ช.ก็ได้มีคำสั่งไปแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นอื่นเพิ่มเติมอีก และจะพยายามให้สร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 วันตามกรอบที่ ผบ.ตร.กำหนดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ผู้เสพยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ปี หรือ ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ มีอายุความ 10 ปี