MGR Online - ผบ.ตร.กำชับ ผู้การฯ ทุกจังหวัดคุมเข้ม ดูแลความปลอดภัยโรงพยาบาล หลังแก๊งโจ๋บุกยำคู่อริ ทำร้ายแพทย์-พยาบาล กลางโรงพยาบาลเมืองปากน้ำ
วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันภายในโรงพยาบาล ใน จ.สมุทรปราการ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินของทาง รพ.ได้รับความเสียหาย ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.สำโรงใต้ จว.สมุทรปราการ ว่า ในเหตุที่เกิดขึ้น ได้แบ่งการดำเนินคดีอออกเป็น 3 ส่วน ในคดีแรก เกิดเหตุภายในซอยโรงเหล็ก ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ มีผู้ต้องหา 11 คน (เสียชีวิต 1 คน แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 8 คน ทราบว่าจะมามอบตัวบ่ายนี้ อีก 2 คน)
คดีที่สอง เกิดเหตุ รพ.วิภารามชัยปราการ มีผู้ต้องหา 9 คน ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย (บุคลากรทางการแพทย์) จำนวน 2 คน และ ข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดนใช้กำลังประทุษร้าย จำนวน 7 คน ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว แจ้งข้อกล่าวครบทั้งหมด 9 คน
คดีที่สาม เกิดเหตุ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย มีผู้ต้องหา 17 คน ดำเนินคดีในข้อหา “มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนข้ึนไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหน่ึงอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายข้ึนในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ, ร่วมกันบุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนข้ึนไป ในเวลากลางคืน ทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันทำร้าย ร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 16 คน ทราบว่าจะเข้ามามอบตัวบ่ายนี้ 1 คน
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ผู้บังคับบัญชาทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระดับกองบังคับการหรือภูธรจังหวัด เพิ่มมาตรการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและระงับเหตุ โดยให้ยกระดับความเข้มข้น ในการตรวจตราโรงพยาบาล สถานพยาบาล เพิ่มวงรอบความถี่ในสถานที่ล่อแหลมต่างๆ ทั้งสถานที่ราชการ สถานศึกษา ห้างร้าน ศูนย์กลางการคมนาคม พร้อมให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบออกปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจน การตั้งจุดตรวจจุดสกัด การกระทำความผิดในลักษณะรวมกลุ่ม มั่วสุม แข่งรถในทาง หรือ มีอาวุธ สิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
สำหรับในประเด็นที่สื่อให้ความสนใจ ถึงกรณีที่บางจังหวัดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าประจำโรงพยาบาลนั้น ขอเรียนว่า เป็นแนวคิดของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ที่กำหนดมาตรการในการป้องกันปราบปรามการก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในโรงพยาบาล ซึ่งมักเกิดเหตุบ่อยครั้ง เพื่อเป็นการป้องปรามและลดอัตราเสี่ยงในก่อเหตุดังกล่าวขึ้น