ปอศ.รวบแก๊งปลอมพันธบัตรรัฐบาล มูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 ล้านบาท-เร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง เตือนประชาชนระวังแก๊งมิจฉาชีพ มีทั้งจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 10-20 ปี ปรับ 20,000-400,000 บาท
วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (รอง ผบก.ปอศ.) พร้อมด้วย นางแพตริเชีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (อธิบดี) และ นายธีรเดช ลิขิตตระกูลวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย ตัวแทนจากกระทรวงการคลัง และ คุณวราภรณ์ ศุภางคสน ผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินและพันธบัตร ตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว กรณีจับกุม นายสันตินันท์ หรือ สิทธิ์ภาคิน เกิดสวัสดิ์ ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับตอกเบี้ยพันธบัตรนั้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนหน้าร้านกาแฟข้างโรงเรียนเทศบาล 6 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ภายหลังจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ออกตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะนายทะเบียนพันธบัตรรัฐบาล ได้ร่วมกันตรวจสอบพบการปลอมแปลงพันธบัตรรัฐบาล ตลอดจนร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย กับผู้ที่แอบอ้างการนำพันธบัตร ที่มีการปลอมแปลงแล้วนำไปแอบอ้างว่าพันธบัตรรัฐบาลในภาพถ่ายดังกล่าว สามารถนำไปใช้ได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อการดำเนินธุรกิจ ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้รายงานการตรวจสอบพบภาพพันธบัตรปลอมดังกล่าวมายัง บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการสืบสวนถึงแหล่งที่มาของภาพพันธบัตรปลอมดังกล่าว และพบว่า มีผู้ถูกจับกุม ซึ่งเป็นผู้ปล่อยเช่าพันธบัตรปลอมกับกลุ่มคนซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อมากลุ่มคนซึ่งได้ตกลงเช่าพันธบัตรรัฐบาลปลอมไปจากกลุ่มผู้ต้องหาได้นำภาพถ่ายพันธบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ออกพันธบัตรดังกล่าว ปรากฏว่า พันธบัตรที่ปรากฏในภาพมีการแต่งเติม ซึ่งแตกต่างกับฉบับจริงและทำให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะ
โดย พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว ผกก.4 บก.ปอศ. เปิดเผยว่า การกระทำลักษณะนี้ สร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 4.5 ล้านบาท เบื้องต้น พบมีคนร้ายอยู่ในขบวนการประมาณ 3-4 คน แต่จากพยานหลักฐาน สามารถเชื่อมโยงจนนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายได้ 2 คน คือ นายสันตินันท์ เป็นเจ้าของพันธบัตร และ น.ส.หงส์หยก คลองศีลธรรม เป็นนายหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว ทั้งนี้ เชื่อว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พัฒนา ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้เฝ้าระวังพฤติการณ์ในลักษณะนี้ โดยขอให้ตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะมีการร่วมลงทุนเป็นอันดับแรกเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ การปลอมพันธบัตรแล้วเอาไปให้คนเช่านั้น เมื่อธุรกิจมีปัญหา มีการยึดพันธบัตรดังกล่าวไป ก็จะพบว่า พันธบัตรดังกล่าวไม่มีมูลค่า เกิดความเสียหายยิ่งขึ้นไปอีก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 “ร่วมกันปลอมพันธบัตรรัฐบาล” มีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี โทษปรับ 20,000-400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนี้จะขยายผลจับกุมต่อไป