MGR Online - เกิดเหตุเพลิงไหม้รถเก๋งวีออส ฝั่งตรงข้ามวัดทองเนียม พบร่างชายฝั่งคนขับถูกไฟคลอกร่างเสียชีวิตเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. ร.ต.ท.พสิฐ เงินยวง รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งมีไฟไหม้ในรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณลานกว้าง ฝั่งตรงข้ามวัดทองเนียม ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงและเขตหนองแขม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.อภิชาติ ทองจันดี ผกก.สน.หนองแขม กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นลานดินรกร้าง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัด จากการตรวจสอบภายในลานด้านใน พบรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน 6 กข 7367 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพถูกเพลิงลุกไหม้ ภายในห้องโดยสารได้รับความเสียหายทั้งหมด พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่เบาะคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือ นายกฤษณะพงศ์ เพชรดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/33 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม กทม. สภาพศพนอนตะแคงซ้าย ถูกไฟเผาจนกลายเป็นตอตะโก ที่บริเวณหว่างขาผู้ตาย นั่งทับขวดแก้ว ลักษณะคล้ายขวดเบียร์บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ขวด ที่เบาะข้างคนขับพบยาจุดกันยุงหลายขด รวมกับกองเอกสาร ซึ่งเป็นกระดาษและสมุดบัญชีเงิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายสมนัส โพธิ์งาม อายุ 58 ปี เจ้าของร้านกาแฟบริเวณด้านหน้าที่ดินดังกล่าว ทราบว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นที่จอดรถของโรงงาน ตามปกติช่วงกลางดึก จะมีรถบรรทุกขนส่งเข้าจอดรับส่งสินค้าหลายคัน แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะไม่มีใครมาใช้พื้นที่ ส่วนรถผู้ตายเห็นขับเข้ามาตอน 13.00 น. เลี้ยวเข้าไปจอดได้ไม่เกิน 20 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง ตนจึงชะโงกดูพบว่า รถคันดังกล่าวยังปิดประตู และปิดกระจกอยู่ทุกบาน แต่มีกลุ่มควันเกิดขึ้นลอยออกมาจากด้านในห้องโดยสาร กระทั่งมีเปลวเพลิงขึ้น ทำให้เกิดแรงอัดจนกระจกแตก ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบ และใช้น้ำทำการดับจนเพลิงสงบ พบศพคนขับอยู่ในรถถูกไฟไหม้จนกลายเป็นตอตะโก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารที่พบในรถ และเดินทางไปยังภูมิลำเนาตามบัตรประชาชนของผู้ตาย ปรากฏว่า ไม่พบใครอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อทำการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตาย ทราบว่าเจ้าตัวมีชื่อเล่นว่า “ตี๋” เป็นชาว จ.ศรีสะเกษ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ จำกัด โดยโพสต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โพสต์ภาพยืนอยู่ข้างรถยนต์ส่วนตัวคันที่เกิดเหตุ พร้อมแคปชัน “สู้โควิดไปด้วยกัน” นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ยังมีการโพสต์ภาพคู่กับเด็กผู้ชายวัยประมาณ 12-13 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นบุตรชายบ่อยครั้ง และมีเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจในทำนองให้สู้ชีวิต ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะติดต่อญาติและบุคคลใกล้ชิดมาสอบปากคำหาชนวนเหตุของการก่อเหตุต่อไป