MGR Online - หนุ่มพนักงานบริษัท AJ ถูกรถพ่วงทับร่างเสียชีวิตย่านถนนเลียบทางด่วนบางขุนเทียน 2 พยานเล่าเหตุการณ์เห็นผู้ตายขี่ จยย.หลุดโค้งพุ่งเข้าใต้ท้องรถ
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 11.20 น. ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงทับจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตบริเวณจุดเกิดเหตุถนนคู่ขนาน ใกล้ด่านเก็บค่าผ่านทางด่านบางขุนเทียน 2 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่วงทางโค้ง ถนนเลียบทางด่วนบางขุนเทียน 2 โดยพบร่างผู้เสียชีวิตในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่บริเวณกลางถนน สวมใส่เสื้อยืดคอปกสีส้ม เขียนที่หน้าอกซ้าย “วท.แพร่” สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ ทราบชื่อต่อมานายณัฐวุฒิ ข้ามเขา อายุ 24 ปี เป็นชาวจังหวัดแพร่ เป็นพนักงานบริษัท AJ ห่างออกไป 15 เมตร พบกับรถบรรทุกพ่วงยี่ห้ออีซูซุสีขาว หัวพ่วงทะเบียน 70-4811 ราชบุรี ส่วนท้ายพ่วงทะเบียน 70-6865 สมุทรสาคร ใต้ท้องรถช่วงลูกพ่วงพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาวคาดดำ ทะเบียน กรข 962 จังหวัดแพร่ล้มตะแคงอยู่ใต้ท้องรถซึ่งเป็นจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต
จากการสอบถามนายไพรวัล เพชรน้อย อายุ 56 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง บอกเล่าว่าตนเองขับรถไปส่งดินลูกรังแล้วกำลังจะกลับสมุทรสาคร ระหว่างที่กำลังขับรถอยู่นั้นได้ยินเสียงดังปังสนั่นมากบริเวณกลางพ่วงของรถตนเอง เลยรีบจอดรถลงมาดูก็เห็นว่ามีจักรยานยนต์คันดังกล่าวพุ่งชนเข้ามาแล้ว จึงรีบโทร.แจ้งหน่วยงานของตนเองแล้วโทร.แจ้งประกันให้มาดูที่เกิดเหตุ คาดว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าวน่าจะมาด้วยความเร็วแล้วเกิดหลุดโค้งเข้ามาชนกับรถของตน
ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งขี่จักรยานยนต์ตามหลังผู้ตายมา ชื่อนายอังคาร นิลพราว อายุ 21 ปี พนักงานของบริษัท เคอรี่ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าว่าขณกำลังขับขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา เห็นว่ารถพ่วงคันดังกล่าวเข้าโค้งมาแล้วส่วนจักรยานยนต์ก็พุ่งเข้าไปหารถพ่วงเลยโดยไม่ได้เบรก ขี่แบบตรงๆ พุ่งเข้าไปเลย เหมือนกับเขาพยายามที่จะแซงแต่จังหวะคงจะลื่นเพราะอาจจะหักมุมเยอะไปเหมือนล้อเขาจะไม่ติดถนน ล้อมันส่ายไปมาแล้วเขาก็พุ่งเข้าไปเลย พอเห็นแบบนั้นก็รีบจอดรถลงไปดูทันทีแล้วรีบโทร.แจ้งตำรวจ 191 รู้สึกกลัวและตกใจต่อเหตุการณ์ที่พบเห็นในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ส่วนทางแพทย์นิติเวชมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชศิริราช เมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมอบให้ญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
