xs
xsm
sm
md
lg

รวบแอดมิน"บันไรกัน"ขายปืนเถื่อนในกลุ่มไลน์ มีสมาชิกทั่วประเทศนับพันคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - หนุมานกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการบุกทลายเครือข่าย "บันไรกัน"ลักลอบขายปืนเถื่อนผ่านกลุ่มไลน์ทั่วประเทศ มีสมาชิกนับพันราย พร้อมรวบแอดมินกลุ่มได้ย่านบางบัวทอง

วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1-3 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานพร้อมอาวุธครบมือ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำหมายค้นศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 31 จุด ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว ตาก ชลบุรี ราชบุรี โคราช สุราษฎร์ธานี เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์

โดยเป้าหมายจุดสำคัญของปฏิบัติการดังกล่าวตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 90/558 หมู่บ้านปิยวรารมย์ 2 ม.6 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังพบว่าเป็นที่กบดานของนายปริญญา เอี่ยมละมัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันทำและมีอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืน, อั้งยี่ ทาง พ.ต.ต.ทัตภร เลขะวัฒนพงษ์ สว.กก.1 บก.ป. จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นทันทีที่ไปถึงพบบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์สูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อม ก่อนแสดงตัวเข้าค้นพร้อมจับกุมตัวนายปริญญาได้โดยละม่อม

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปริญญาให้การรับสารภาพว่าได้เปิดกลุ่มไลน์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนจริงแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ผลิตอาวุธปืน จากการตรวจค้นภายในบ้านพบปืนจำนวน 2 กระบอก เป็นปืนที่ใช้รีวิวขายทางสื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการตั้งกลุ่มไลน์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนที่ผลิตขึ้นเอง โดยมีทั้งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่หล่อขึ้นรูปเอง และอาวุธปืนที่ดัดแปลงมาจากปืนบีบีกัน อย่างไรก็ตาม กลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกจากทั่วประเทศในกลุ่มมากถึงกว่า 1 พันคน ซึ่งในกลุ่มจะมีนายปริญญาทำหน้าที่เป็นแอดมินหลัก ทำหน้าที่จัดหาปืนจากแหล่งผลิตต่างๆ มาจำหน่ายให้สมาชิกที่สนใจหรือสั่งซื้อ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไป จนกระทั่งพบว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับและหมายค้นจนนำไปสู่ปฏิบัติการจับกุม

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลปฏิบัติการตรวจค้นจุดสำคัญอื่นๆ ที่เหลือและภาพรวมของปฏิบัติการดังกล่าวทั้งหมดนั้นทางกองปราบปรามจะมีแถลงรายละเอียดให้ทราบต่อไป







ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.พร้อม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ รอง ผกก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 31 จุด ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว ตาก ชลบุรี ราชบุรี โคราช สุราษฎร์ธานี เพื่อกวาดล้างจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์เครือข่าย "บันไรกัน" โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย 1. นายปริญญา เอี่ยมละมัย อายุ 38 ปี, 2. นายพัฒนะ การะเกตุ อายุ 37 ปี,3. นายเทพพร แก้วพระอินทร์ อายุ 31 ปี,4. นายสมยศ อยู่เจริญ อายุ 22 ปี,5. นายวรายุ กะลำพา อายุ 30 ปี,6. นายศรศักดิ์ นาระหัส อายุ 32 ปี,7. นายสิธร ศรีใส อายุ 27 ปี,8. นายวรวุฒิ พิมพ์สา อายุ 29 ปี และ 9. นายธนพัฒน์ ค้องรัมย์ อายุ 30 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันทำและมีอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืน และเป็นอั้งยี่” พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวนรวม 11 กระบอก สิ่งเทียมอาวุธ,อุปกรณ์ส่วนควบ 30 รายการ และเครื่องกระสุนจำนวน 600 นัด นอกจากนี้ยังได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวมาทำการตรวจสอบอีกจำนวน 5 ราย

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการตั้งกลุ่มในแอพพลิเคชั่นไลน์ลักลอบจัดหาจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนที่ผลิตขึ้นเอง โดยมีทั้งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่หล่อขึ้นรูปเอง และอาวุธปืนที่ดัดแปลงมาจากสิ่งเทียมอาวุธหรือปืนบีบีกัน ภายใต้ชื่อกลุ่มว่า “แก๊งบันไรกัน” โดยมีนายปริญญา เป็นแอดมินหลักคอยเป็นคนกลางรับจัดหาอาวุธปืนมาขายให้กับผู้ที่สนใจ โดยปืนที่นำมาขายจะมีราคาประมาณ 1-2 หมื่นบาทซึ่งต่ำกว่าราคาปืนถูกกฎหมายหลายเท่าตัว ซึ่งก่อนการขายปืนแต่ละกระบอกทางกลุ่มแอดมินจะมีการทำโพต์คลิปวิดีโอสาธิตการใช้อาวุธปืนต่างๆ ผ่านทางยูทูปเพื่อเป็นการโฆษณาและสร้างแรงดึงดูดใจ จนปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวมีบุคคลทั่วไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกมากถึงกว่า 2 พันคน

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.1-5 และ กก.สสน.บก.ป. จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่าผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการชัดเจน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.แอดมินกลุ่มไลน์ ทำหน้าที่จัดหาเสนอขายและรีวิวอาวุธปืน,2.ผู้ผลิต จะจัดทำสินค้าตามที่มารายการสั่งเข้ามาผ่านแอดมิน,3.ผู้จัดส่งสินค้าผ่านทางบริษัทเอกชน และ 4.ฝ่ายบัญชี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและหมายค้น ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 รายได้ดังกล่าว พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 ราย มาทำการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คนนี้เคยมีการโอนเงินให้กับนายหน้าที่ขายอาวุธปืนในกลุ่ม รวมถึง 1 ใน 5 ผู้ต้องสงสัยนี้ ยังทำหน้าที่ปล่อยกู้เงินให้กับผู้ที่สนใจจะซื้อปืนแต่ไม่มีเงินทุนมากพออีกด้วย

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนของการขยายผลหลังจากนี้ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวจะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบว่าอาวุธปืนที่ได้จากการขายเคยถูกนำไปใช้กระทำความผิดหรือไม่ ทั้งนี้อยากฝากเตือนว่าการซื้อขายหรือผลิตอาวุธปืนต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงบีบีกันที่นำมาดัดแปลงก็ถือเป็นอาวุธปืนมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน ซึ่งจะมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น