MGR Online - สืบนครบาล รวบหนุ่มแสบหลอกเพื่อนนักโทษตอนติดคุกด้วยกัน ให้ญาติโอนเงิน 3 แสนบาท อ้างรู้จักผู้ใหญ่ช่วยปล่อยตัวได้ สุดท้ายเชิดเงินหนี
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัยผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ได้รับรายงานว่า พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เจษฎาภรณ์ อ่อนทองคำ รอง ผกก.สส.2 พร้อมชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน 2 ร่วมกันจับกุม นายภูริ หรือ เอ๋ วงศ์คงคำ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ 77/2562 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น (เงินสด)” โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. ได้จับกุม นายภูริชญา หรือ อาณัชยาทร ผู้ต้องหารายนี้ตามหมายจับศาลแขวงสุราษฎร์ธานีในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาแต่งกายปลอมเป็นตำรวจยศ พ.ต.อ.ออกตระเวนหลอกล่อหญิงสาวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อลวงเอาเงิน ซึ่งมีหญิงสาวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลงเชื่อ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากว่า 2 ปี จนถูกจับกุมตัวดังกล่าว นำส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีโดยศาลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน
ระหว่างที่ นายภูริชญา จำคุกในเรือนจำจังหวัดสุราษฎรณ์ธานี ก็ได้หลอกลวงเพื่อนนักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำดังกล่าว ว่ารู้จักผู้ใหญ่ในรัฐบาลมากมาย สามารถช่วยให้ออกจากเรือนจำได้ แต่ต้องนำเงิน 300,000 บาท มาให้ เมื่อผู้ต้องหาได้เงินแล้วก็หลบหนีไป ภรรยาของนักโทษคดียาเสพติด จึงไปแจ้งความในความผิดฉ้อโกง ก่อนที่ศาลจะออกหมายจับไว้
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า ต่อมาชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี พร้อมเปลี่ยนชื่อและทำบัตรประชาชนใหม่จากชื่อ “นายภูริชยา วงศ์คงคำ” เป็นชื่อ “นายภูริ วงศ์คงคำ” ก่อนได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหารายนี้มาหลอกลวงเหยื่อรายใหม่ในพื้นที่ จ.ระยอง จึงนำกำลังลงพื้นที่ จนมาพบผู้ต้องหาเดินอยู่หน้าศูนย์การค้าโฮมโปร ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนเข้าคุมตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหา ยอมรับว่า ที่ก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอมให้ลูก 2 คน หลังจากก่อเหตุก็ได้เปลี่ยนชื่อและไปทำอาชีพค้าขายชานมไข่มุกออนไลน์ที่ จ.ระยอง จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากคดีนี้ ผู้ต้องหายังเคยหลอกเหยื่อว่าตัวเองเป็นแพทย์ ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามหาตัวผู้เสียหายให้มาแจ้งความเพิ่มเติม หลังจากนี้ ก็จะนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หากใครที่เคยถูกผู้ต้องหาหลอกก็ให้มาดูตัวและแจ้งความดำเนินคดีต่อไป