MGR Online - ตำรวจเพชรเกษม จับหนุ่มเคยติดคุก ตระเวนเก็บของเก่าตอนกลางคืน ฉวยโอกาสลักทรัพย์ในรถผู้เสียหายจอดไว้หน้าบ้านแต่ลืมล็อกประตู
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม และ พ.ต.ท.พัฐกร ปิยธิติภูวดล สว.สส.สน.เพชรเกษม นำกำลังจับกุมตัว นายชัยธวัช หรือบอล จันทาเขียว อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหอมแบรนด์เนม และเครื่องสำอาง รวม 22 รายการ มูลค่าประมาณ 4,000 บาท โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 852 ชุมชนบ้านขิง ถนนบางบอน 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชัยธวัช ผู้ต้องหารายนี้ได้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ในรถยนต์ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว ทะเบียน 8 กฉ 6961 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าของรถจอดไว้โดยลืมล็อกประตู ในหมู่บ้านนาราทอง ซอยอินทาปัจ 15 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ทำให้นายชัยธวัชสบโอกาสเปิดประตูรถเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินได้ทั้งสิ้นรวม 22 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอาง และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพนายชัยธวัชเป็นผู้ก่อเหตุชัดเจน ที่สำคัญเจ้าตัวเคยถูกตำรวจสน.เพชรเกษม จับกุมคดีเสพยาบ้ามาแล้ว 2 ครั้ง และคดีลักทรัพย์อีก 1 ครั้ง จึงทำให้ชุดจับกุมนำกำลังไปตามรวบตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมดถึงที่บ้านพักหลังลงมือก่อเหตุไม่ทันข้ามวัน
จากการสอบสวนนายชัยธวัชให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ทำงานรับจ้างทั่วไป ใครใช้ทำงานก่อสร้าง ถางหญ้า ลอกท่อก็ทำหมดทุกอย่าง แต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 รายได้ขาดเนื่องจากไม่มีใครว่าจ้างให้ทำงานจึงถือโอกาสออกตระเวนเก็บของเก่าตอนกลางคืนหวังจะเอาไปขาย โดยเมื่อเดินผ่านรถของผู้เสียหายแล้วทดลองเปิดประตูดู ปรากฏว่าเปิดเข้าไปด้านในได้เพราะเจ้าของลืมล็อกรถ แต่เมื่อรื้อค้นทรัพย์สินภายในก็ไม่มีเงินสด เครื่องประดับ หรือของมีค่ามากมาย ทำให้ตัดสินใจหอบเครื่องสำอาง น้ำหอม และบัตร เท่าที่หยิบได้นำใส่ตะกร้ามาเก็บไว้ที่บ้านจนถูกตำรวจติดตามมารวบตัวพร้อมของกลาง
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ต่อนายชัยธวัช นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนทรัพย์สินที่ยึดมาได้จะเรียกผู้เสียหายมารับคืนและตักเตือนให้ระมัดระวังอย่าหลงลืมล็อกประตูรถเมื่อต้องจอดในครั้งต่อไป