แม่ค้าออนไลน์-ช่างสักลาย หัวร้อน ด่า ตร.จราจร สภ.บางบัวทอง ฉุนรถเก๋งถูกล็อกล้อรถเก๋ง หลังขับมาจอดจุดห้ามจอดขณะลงไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ลูก สุดท้ายสลดถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ญาติหอบเงินขอประกันตัว
วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบังทอง ว่าเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 พ.ค. มีสามีภรรยาด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เนื่องจากไม่พอใจที่รถถูกล็อกล้อเพราะจอดรถในที่ห้ามจอดเมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการบันทึกจับกุมตัว น.ส.สุทิตา ยิ้มบุผา อายุ 28 ปี แม่ค้าออนไลน์ และนายกิตติ์พิพัฒน์ นาคสู่สุข อายุ 27 ปี อาชีพช่างสักลาย โดยถูกดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่ หลังทั้งสองคนไม่พอใจที่ถูก ด.ต.สุวิท จิว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผบ.หมู่งานปราบปราม ช่วยงานจราจร ล็อกล้อ ขณะทั้งสองคนขับรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน 2 กบ 9105 กรุงเทพมหานคร จอดในที่ห้ามจอด
ด.ต.สุวิท จิว อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งาน ป.ช่วยงานจราจร กล่าวว่า ขณะที่ตนขี่ จยย.ออกตรวจการจราจร มาตามถนนบางกรวย-ไทรน้อย พอมาถึงหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน 2 กบ 9105 กทม.จอดในที่ห้ามจอด (ขาว-แดง) จึงได้จอดรถเพื่อประชาสัมพันธ์ว่าจุดนี้ห้ามจอด แต่ไม่พบเจ้าของรถ จึงได้นำเครื่องล็อกล้อมาทำการล็อกที่ล้อหน้าด้านขวาและเขียนใบสั่ง ปรากฏว่าได้มีเจ้าของรถทราบชื่อนายกิตติ์พิพัฒน์ นาคสู่สุข และ น.ส.สุทิตา ยิ้มบุผา เดินเข้ามาต่อว่าและด่าทอตนด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคาย จนตนต้องเดินหนีมาอีกฟากของถนน แต่ทั้งสองคนยังเดินตามมาด่าตนอีก ตนจึงได้ใช้มือถือถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะแจ้งให้ร้อยเวรมารับตัวไปดำเนินคดี
ด้าน น.ส.สุทิตากล่าวว่า ตนพาลูกๆ มาซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ร้านศึกษาภัณฑ์ โดยนายกิตติ์พิพัฒน์ สามีเป็นคนขับ เมื่อมาถึงหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ตนและลูกๆ ลงจากรถเพื่อไปเลือกซื้ออุปกรณ์การเรียน ส่วนนายกิตติ์พิพัฒน์นั่งรออยู่ในรถ ปรากฏว่าตนลืมหยิบเอากระเป๋าตังค์มาจึงให้ลูกออกมาตามนายกิตติ์พิพัฒน์ให้เอากระเป๋าเงินมาให้ ขณะกำลังจ่ายเงินก็สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกำลังล็อกล้อและเขียนใบสั่ง ตนและนายกิตติ์พิพัฒน์ไม่พอใจจึงได้ตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคลิปที่เห็น ยอมรับว่าโมโหมากที่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สามีภรรยาถูกควบคุมตัวมาที่โรงพักเพื่อบันทึกจับกุม พบว่าได้มีญาติมาที่โรงพัก แต่อาการของสองสามีภรรยายังไม่สงบลง พอรู้ว่าเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำให้ทั้งคู่อาการเงียบลง โดยเฉพาะนายกิตติ์พิพัฒน์ถึงกับนั่งคอตก อ่านข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง โดย ร.ต.อ.ภชรธาดา พงษ์สุวรรณ รอง สว.สอบสวน ได้แจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท นำตัวเข้าห้องขัง ญาติต้องรีบกลับไปนำหลักทรัพย์มาประกันตัว