MGR Online - บช.น.แถลงจับผู้ต้องหาสร้างเว็บปลอมรับสมัครงาน บังคับแปะบัตร ปชช.และเลข บช.ก่อนตะล่อมให้โอนเข้าบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นแฮกเฟซหลอกยืมเงิน เสียหายกว่า 2 แสนบาท ล่าอีกหนึ่งสาวรับซื้อเงินในตลาดมืด
วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 แถลงข่าว พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง พ.ต.อ.ณกฤช บุญศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ท.นัยพินิจ รัฐธรรม สว.กก.สส.บก.น.9 และตำรวจ กก.สส.บก.น.9 จับกุม นายไพโรจน์ (สงวนนามสกุล) ได้ภายในบ้านเลขที่ 82/34 ห้อง 501 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองฯ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 ได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มคนร้ายปลอมตัวเป็นบุคคลอื่นทางเฟซบุ๊กและไลน์ ไปหลอกยืมเงินผู้เสียหายโอนเงินเข้าในบัญชีที่ตัวเองสร้างไว้ (บัญชีม้า) ซึ่งเป็นบัญชีอำพราง คนร้ายจะได้ข้อมูลจากเฟซบุ๊กที่ลงประกาศรับสมัครงาน ขายของ ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 20 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 แสนบาท และมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าร้องทุกข์ จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายไพโรจน์ นายสุริยวุธ (สงวนนามสกุล) ซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว และ น.ส.คราวเดีย (สงวนนามสกุล) อยู่ระหว่างติดตามจับกุม กลุ่มดังกล่าวได้ก่อเหตุตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.หลายพื้นที่ สำหรับในส่วนของ บช.น.เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.หลักสอง และ สน.บางซื่อ นอกจากนี้ พบว่ามีผู้เสียหายในพื้นที่ จ.ลำปาง และ จ.นนทบุรี
ด้าน พ.ต.อ.ณกฤช กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายมีพฤติกรรมชอบเล่นคอมพิวเตอร์ อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ไปตามร้านเกม ศึกษาวิธีการจากกลุ่มบุคคลหนึ่งในร้านเกมแล้วมาทำตามปรากฏว่าทำได้จริง โดยไม่นึกว่าตำรวจจะสามารถตามจับกุมได้ หลังทำครั้งแรกสำเร็จก็ทำมาเรื่อยๆ จนมีผู้เสียหาย 20 คน ล่าสุดมีผู้แจ้งความที่ สน.หลักสอง จึงรวบหลักฐานออกหมายจับจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ และทราบว่ามีการเปิดรับสมัครให้ผู้อื่นเปิดบัญชีโดยให้ค่าตอบแทน จากนั้นโอนเงินไปทางบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 5 ครั้ง ซึ่งจะใช้อยู่ตามภูมิภาคต่างๆ บัญชีแรกที่พบมีการใช้บัญชีอิเล็กทรอนิกส์อยู่ใน จ.ตรัง และบัญชีที่ 2 ใน จ.ชัยภูมิ ทางตำรวจสืบสวนจนพบว่า กลุ่มคนร้ายใช้บัญชีหนึ่งเพื่อแปลงเงินธนาคารแล้วโอนเข้าบัญชีม้าที่ จ.จันทบุรี
ขณะที่ พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า วิธีการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายจะสร้างเว็บไซต์ปลอมขึ้นมา เพื่อไว้รับสมัครงานยิ่งในช่วงวิกฤตนี้คนก็แห่เข้ามาสมัครกันเยอะ โดยเอาบัตรประชาชนและเลขบัญชีธนาคารของผู้สมัคร ถ้ามีเงินเข้าบัญชีผู้สมัครจะได้รับเงิน 1 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นกลุ่มคนร้ายใช้กลยุทธ์ติดต่อกันทางไลน์ เพื่อให้ผู้สมัครโอนเงินต่อไปเข้าบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ แล้วโอนต่อไปอีกหลายขบวนการ เมื่อกลุ่มคนร้ายสร้างขบวนการได้แล้ว จะเข้าไปแฮกเฟซบุ๊กโดยการสุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ซื้อของออนไลน์ ระบุชื่อ เบอร์โทร.หากประชาชนใช้เบอร์เป็นพาสเวิร์ดในเฟซบุ๊กก็อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ หลังจากแฮกได้แล้วจะเข้าไปปลอมตัวเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย หลอกยืมเงินในเมสเซนเจอร์ หากใครมีเพื่อนเยอะก็ส่งข้อความยืมเงินไปทั้งหมด ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ที่หลงเชื่อโอนเงินมาให้ โดยเงินจะเข้าไปในบัญชีม้าที่กลุ่มคนร้ายสร้างไว้ แล้วทางผู้โอนก็จะส่งสลิปหลักฐานการโอน จากนั้นคนร้ายจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีอิเล็กทรอนิกส์
บุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องถือเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย ขณะได้ออกหมายจับ น.ส คราวเดีย ซึ่งมีหน้าที่รับซื้อเงินในตลาดมืด โดยจะหักเงินไว้ ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ เสร็จแล้วโอนเงินกลับมาให้นายไพโรจน์ และนายสุริยวุธ เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงเป็นคนอื่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" นอกจากนี้ ขอเตือนบุคคลที่ต้องใช้บัญชีตัวเองในการสมัครงาน ตรงนี้ท่านอาจจะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด หรือสนับสนุนในการกระทำความผิดด้วย 2. ประชาชนที่ใช้งานเฟซบุ๊กควรตั้งพาสเวิร์ดให้สลับซับซ้อน อย่าใช้เบอร์โทรศัพท์ของตัวเองเป็นพาสเวิร์ด และฝากเตือนถึงผู้ที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะมีวิธีการที่สลับซับซ้อนอย่างไรตำรวจไปถึงตัวแน่นอน หากมีประชาชนท่านใดถูกหลอกลวงในคดีดังกล่าว สามารถประสานให้ข้อมูลได้ที่ สน.หลักสอง หรือ กก.สส.บก.น.9
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ได้มอบเงินคืนให้แก่ผู้เสียหาย 4 ราย รวมจำนวนกว่า 1.5 แสนบาท