MGR Online - ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ สั่งเด้ง สวป.สภ.ชุมแสง ซิ่งเก๋งชนหนุ่มแกร็บฟู้ดขาขาด แต่ไม่จอดดู หรือให้การช่วยเหลือ ช่วยราชการ ศปก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง รายงานผลภายใน 3 วัน ผบ.ตร.กำชับทำคดีอย่างโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีพ.ต.ท.พิสัณห์ บูชารัมย์สวป.สภ.ชุมแสง อ.สะตึก จ.บุรีรัมย์ ขับรถเก๋งชนหนุ่มแกร็บฟู้ดขาขาด แต่กลับไม่จอดดู หรือให้การช่วยเหลือ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 63 เวลาประมาณ 20.30 น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนที่บริเวณถนนสายบุรีรัมย์-โกรกขี้หนู หน้าปั๊มน้ำมันใกล้ผ้วยชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีแดง อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับคนขับรถยนต์ โตโยต้า สีขาว ซึ่งได้รับความเสียหายจากการถูกรถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งภายหลังทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บต้องถูกตัดบริเวณขาซ้ายออก
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บและพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่า รถที่เฉี่ยวชนรถของผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บคือ รถโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กจ 8238 บุรีรัมย์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ชุมแสง เป็นผู้ขับขี่ จึงได้ทำการเรียกตัวตำรวจรายดังกล่าวมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และหลบหนีไม่แจ้งเหตุให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบในทันที
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการตรวจพิสูจน์ จากนั้นจะสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อีกทั้งวันนี้ (14 พ.ค. 63) พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และได้มีหนังสือสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวแล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 3วัน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการทางคดี และการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวกระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
