กระบะยางระเบิด เสียหลักพลิกคว่ำบนทางด่วนพิเศษอุดรรัถยา สภาพรถพังยับ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายจำนวน 6 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
วันที่ 24 เมษายน 63 เวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามโคก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนอุดรรัถยา ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะยางระเบิด เสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนทางด่วนพิเศษ (อุดรรัถยา) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 23+600 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนอุดรรัถยา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งให้การช่วยเหลือ นำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย ส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ไปก่อนหน้านี้
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒก 1127 กรุงเทพฯ สภาพพังยับเยินจนได้รับความเสียหาย ข้าวของที่บรรทุกมากระจัดกระจายเต็มถนน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายจำนวน 6 ราย โดยมี นายสม อินเป็ง อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถคันที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่มากับรถคันที่เกิดเหตุอีก 5 ราย รวมทั้งหมด 6 ราย ทางเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งให้การช่วยเหลือ นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ทราบชื่อต่อมา คือ 1. นายธวิทย์ เพ็งคุน อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ 2. นายสุทัศน์ ติ่งหมาย อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ 3. นายวุฒิชัย อินเป็ง อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี 4. นายสุชาติ พิมพาพันธ์ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี และ 5. นายพิทักษ์ พาแดง อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดเลย โดย นายสม อินเป็ง อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดน่าน (ซึ่งเป็นผู้ขับขี่)
ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนอุดรรัถยา เล่าว่า รถคันดังกล่าวมุ่งหน้ามาจากบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกำลังมุ่งหน้าอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนขับบอกว่า ยางรถด้านหลังขวาระเบิด จึงทำให้รถเสียการทรงตัว และเสียหลักพลิกคว่ำ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้นจึงได้โทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ประกันทราบ ส่วนทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนอุดรรัถยา ได้นำรถยกมายกรถออกและนำไปเก็บไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรสามโคก จากนั้นให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน เก็บกวาดพื้นผิวการจราจรและคราบน้ำมัน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามโคก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ จึงได้บันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาล เพื่อทำการสอบสวนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต