นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ออกประกาศจังหวัดน่านเรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (ฉบับที่ 8) ตามที่จังหวัดน่านได้มีประกาศลงวันที่ 23 มีนาคม 2563 ปิดพื้นที่บางส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่ซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สำนักงานของห้าง ๆ และธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 1 เมษายน 2563 และต่อมาได้มีประกาศลงวันที่ 27 มีนาคม 2563 ขยายระยะเวลาการปิดสถานที่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด แออัดและเบียดเสียดในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดน่านออกไป จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
เนื่องจากมีผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เสนอขอให้จังหวัดน่านพิจารณาอนุญาตให้เปิดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 เห็นว่าสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกดำรงชีวิตของประชาชน จึงมีความเห็นชอบให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เปิดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ เพื่ออำนวยความสะดวกดำรงชีวิตของประชาชนในจังหวัดน่าน อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน จึงได้กำหนดให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เปิดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
ทั้งนี้ ให้ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่จำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดในข้อ 11 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1 ) โดยเคร่งครัด อาทิ 1. ให้ทำความสะอาด โดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้อง และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 2. ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ลูกจ้าง รวมทั้งลูกค้าและผู้มารับบริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 3. ให้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าไปซื้อสินค้าโดยห้างสรรพสินค้ ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่จะต้องจัดเตรียมล้างมือ สบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับบุคคลดังกล่าวด้วย 4. ให้ควบคุมจำนวนลูกค้าหรือผู้มารับบริการมิให้แออัด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง