xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ตร.แนะผู้ใจบุญแจกของอย่างไร ให้ห่างไกลโควิด-19 ซ้ำยังไม่ผิดกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - โฆษก ตร.แนะวิธีบริจาคสิ่งของและอาหาร ให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่ผิดกฎหมาย วอนแจ้งหน่วยงานรัฐก่อน เพื่อจัดระเบียบ เว้นระยะห่างทางสังคม

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธานำอาหาร หรือ สิ่งของมาบริจาคให้กับประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ว่า ลักษณะนิสัยของคนไทยเป็นคนใจบุญ โอบอ้อมอารี เมื่อพบใครตกทุกข์ได้ยาก ก็พร้อมที่จะเอื้อเฟื้อเกื้อกูล ยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยทันที เห็นได้จากปัจจุบันที่มีกรณีของผู้มีจิตศรัทธานำอาหารและสิ่งของมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชน บางกรณีอาจทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ซึ่งอาจจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง การจัดกิจกรรมมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในการทำบุญหรือช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเองนั้น ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้หลายวิธี อาทิ การนำอาหารและสิ่งของไปแจกตามบ้าน เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนไม่ต้องเดินทาง สามารถลดการรวมกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อีกทางหนึ่งการบริจาคให้แก่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน เพื่อนำไปดำเนินการต่อ หรือการจัดจุดแจกอาหารและสิ่งของในแต่ละพื้นที่” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่มีจิตศรัทธา เพื่อให้น้ำใจและความช่วยเหลือของท่านไปสู่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างทั่วถึง และยังไม่เป็นการทำให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่ขึ้นในประเทศ ก่อนการบริจาคอาหารและสิ่งของทุกครั้ง ขอให้ท่านแจ้งให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบก่อนการบริจาค

“สำหรับใน กทม.มีการกำหนดจำนวนจุดบริจาคไว้ 71 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 6 โซน แบ่งเป็น กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และ กลุ่มเขตกรุงธนใต้ ผู้ที่สนใจจะบริจาคอาหารและสิ่งของขอให้ติดต่อประสานกับสำนักงานเขตทุกเขต สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถประสานโดยตรงกับจังหวัด อำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร จะได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมดูแล และจัดระเบียบให้เป็นไปตามมาตรการด้านสุขอนามัย เช่น การตรวจวัดไข้ การเว้นระยะห่าง การสวมใส่ หน้ากากอนามัย หรือการจัดให้มีจุดล้างมือด้วยแอลกฮอล์ เป็นตัน” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ศูนย์ กทม. 1155 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
กำลังโหลดความคิดเห็น