MGR Online - รองโฆษก ตร. เผย จับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว 2 สัปดาห์ กว่า 7 พันราย ชี้ แนวโน้มสถิติจับกุมลดลงต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มรับรู้ หลังมีการสร้างความเข้าใจ
วันนี้ (17 เม.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการปฏิบัติในการตั้งด่านเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ปัจจุบันมีการตั้งด่านตรวจ 998 จุดทั่วประเทศ ซึ่งผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการจับกุมดำเนินคดีผู้ที่จงใจฝ่าฝืนไปมากกว่า 7,000 ราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถิติการจับกุมมีแนวโน้มลดลงทุกวัน เนื่องจากมีการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อคืนวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดี 929 คน แบ่งเป็นผู้ออกนอกเคหสถาน 820 คน มั่วสุมในเคหสถาน 109 คน
“ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่เข้าใจเจตนารมณ์ในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค ที่ต้องการให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปทำกิจกรรม พบปะสังสรรค์ ให้เน้นการอยู่ในที่พักอาศัย” รองโฆษก ตร.ระบุ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยังพบมีสถานประกอบการฝ่าฝืนคำสั่งถูกดำเนินคดี ตั้งแต่ 20 มี.ค.- 16 เม.ย. รวม 62 ราย ในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพฯและปริมณฑล, เชียงใหม่, ภูเก็ต, เกาะสมุย ส่วนการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ตั้งแต่ 4 มี.ค.- 16 เม.ย. มีการจับกุมแล้ว 398 คดี จับกุมผู้ปล่อยข่าวปลอม บิดเบือนข่าว สร้างความสับสน พบว่า ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นมา จับกุมรวม 33 คดี มีผู้ต้องหา 39 ราย
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า กรณีที่ต้องมีการเดินทางออกนอกเคหสถานในช่วงที่มีการประกาศเคอร์ฟิว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำแบบฟอร์มกลาง เพื่อเป็นแนวทางในการออกหนังสือรับรองให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง ตามที่ได้รับการยกเว้นในประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาทิ แพทย์ พยาบาล สื่อมวลชน พนักงานที่เข้ากะกลางคืน ซึ่งหากต้องผ่านด่านตรวจก็ต้องมีเอกสารรับรอง รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวบุคคล และหากเป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น ก็จะพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณีไป