xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.ศาลฎีกา ออกคำแนะนำผู้พิพากษาลงโทษฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมาะสม ไม่แพร่โควิด-19 เข้าไปในคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ปธ.ศาลฎีกา ออกคำเเนะนำผู้พิพากษาลงโทษผู้กระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้เหมาะสมและเข็ดหลาบ แต่หลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นพาหะแพร่โรคระบาดโควิด-19 เข้าไปในคุก

วันนี้ (16 เม.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ได้ออกคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 4 ความว่า ตามที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลาที่ระบุในข้อกำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้นนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกาจึงออกคำแนะนำดังต่อไปนี้ การใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษแก่จำเลยซึ่งกระทำความผิดฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลาที่กำหนดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ศาลพึงคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการออกข้อกำหนดว่าเป็นไปเพื่อป้องกันมิให้ประชาชนไปประกอบกิจกรรมไม่พึงประสงค์อันนำไปสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การกำหนดโทษแก่จำเลยในอัตราโทษที่เหมาะสมและมีผลในการบังคับโทษโดยทันทีย่อมส่งผลให้จำเลยเข็ดหลาบไม่กล้ากระทำความผิดอีก ตลอดระยะเวลาตามข้อกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลดีต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและส่งผลต่อประชาชนโดยทั่วไปที่จะยับยั้งชั่งใจและระมัดระวังที่จะไม่กระทำความผิดในฐานดังกล่าว

แต่ในภาวะเช่นนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการส่งจำเลยเข้าไปรับโทษกักขังในสถานที่กักขังหรือจำคุกในเรือนจำเพราะเป็นการเสี่ยงที่จำเลยจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสไปแพร่ระบาดในสถานที่กักขังหรือเรือนจำซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อระบบสาธารณสุขโดยรวมของประเทศ จึงสมควรที่ศาลจะได้นำมาตรการที่มีอยู่หลากหลายในประมวลกฎหมายอาญามาใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งในทางลงโทษผู้กระทำความผิดและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง

นายสุริยัณห์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการทางอาญาที่ศาลจะพิจารณานำมาใช้ให้เหมาะสมตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกา เพื่อการลงโทษจะสามารถเป็นการป้องกันไม่ให้จำเลยมีโอกาสเป็นพาหะนำโรคระบาดเข้าไปในเรือนจำหรือสถานกักขังซึ่งก็มีการกำหนดไว้ในหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การลงโทษปรับ การรอการลงโทษ การรอการกำหนดโทษ การกังขังในสถานที่อื่นที่กำหนด เช่น อาจจะเป็นกักขังในเคหะสถาน เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น