MGR Online - “บก.ปคบ.” ร่วม “อย.” แถลงผลบุกโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ชุดตรวจโควิด-19 ปลอม รอบกรุงเทพฯ 5 แห่ง ของกลางจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (7 เม.ย.) เวลา 10.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ.และ เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมแถลงผลปฏิบัติการทลายแหล่งผลิต นำเข้าและจำหน่าย หน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้น อุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 จำนวน 55,000 ชิ้น เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด 1,200 เครื่อง ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ 53,000 ลิตร ผลิตภัณฑ์เจลผสมแอลกอฮอล์ 7,896 ชิ้น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 8,271 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดกว่า 50 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 26 มี.ค.- 2 เม.ย. 63
คดีแรก ปคบ.ร่วม อย. ตรวจค้นอาคารเลขที่ 168 หมู่ 9 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ 15 ถัง รวม 3,000 ลิตร เครื่องสำอางสำเร็จรูป 6,865 ขวด อุปกรณ์การผลิต บรรจุภัณฑ์ และฉลากผลิตภัณฑ์จำนวนมาก เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้ง หรือยังไม่ได้รับใบจดแจ้งก่อนผลิต” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางปลอมที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง” มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ฐาน “ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางปลอมที่แสดงว่าเป็นเครื่องสำอางที่ได้จดแจ้งไว้ซึ่งมิใช่ความจริง” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คดีที่สอง ตรวจค้นโกดังพ่อค้าชาวจีน บ้านเลขที่ 67 ซอยวชิรธรรมสาธิต 53 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ได้จับกุมตัว นายเฉิน เหล่ย อายุ 35 ปี สัญชาติจีน นายเหวิน ปินปิน อายุ 24 ปี สัญชาติจีน พร้อมยึดของกลาง อุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 จำนวน 45,000 ชุด มูลค่ากว่า 22,500,000 บาท เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด 1,200 เครื่อง มูลค่ากว่า 6,000,000 บาท หน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 5,250,000 บาท รวมมูลค่าของกลางกว่า 33 ล้านบาท เป็นความผิดตามพ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “นำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียนสถานประกอบการ” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับหน้ากากอนามัยผิดฐาน “เป็นผู้นำเข้าไม่แจ้งปริมาณนำเข้า ปริมาณจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ” ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ,ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 9 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คดีที่สาม ตรวจค้นโรงงานผลิตเจลล้างมือเถื่อน อาคารเลขที่ 97/67 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจยึด ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ จำนวน 50 ถัง รวม 50,000 ลิตร ผลิตภัณฑ์เจลผสมแอลกอฮอล์ 1,180 ขวด ผลิตภัณฑ์เจลผสมแอลกอฮอล์ 456 แกลลอน เครื่องสำอางสำเร็จรูป 26 แกลลอน อุปกรณ์การผลิต บรรจุภัณฑ์และฉลากผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐาน “ผู้จดแจ้งต้องผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอางให้ตรงตามที่จดแจ้งไว้” มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท “ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางปลอม ที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิตผู้นำเข้าหรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ฉลากเครื่องสำอางมีข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ และ ฉลากแสดงที่ตั้งผู้ผลิตไม่ถูกต้อง” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คดีสี่ อาคารย่านแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ได้ตรวจยึดอุปกรณ์ชุดตรวจโควิด-19 จำนวน 10,000 ชุด มูลค่ากว่า 5,000,000 บาท เป็นความผิดฐาน นำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียนสถานประกอบการ ตามพ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และคดีที่ห้า ตรวจค้น อาคารเลขที่ 42/29 หมู่ที่ 3 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจยึด ผลิตภัณฑ์เจลผสมแอลกอฮอล์ 6,260 หลอด เครื่องสำอางสำเร็จรูป 1,380 ขวด ฉลากผลิตภัณฑ์ 54,050 แผ่น อุปกรณ์การผลิต และบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก ความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้ง หรือยังไม่ได้รับใบจดแจ้งก่อนผลิต” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางปลอมที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิตผู้นำเข้าหรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง” มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ผู้จดแจ้งต้องผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอางให้ตรงตามที่จดแจ้งไว้” มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
พล.ต.ท.เพิ่มพูน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการกักตุนหน้ากากอนามัยและถูกนำมาจำหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควร อีกทั้งมีการลักลอบนำอุปกรณ์ชุดตรวจโรค ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ และเจลผสมแอลกอฮอล์มาโฆษณาขายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดอันตรายแก่พี่น้องประชาชนได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมายขึ้นมา โดยเน้นย้ำในการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่และประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากผลการปฏิบัติที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก
ด้าน เภสัชกรหญิง สุภัทรา เปิดเผยว่า อย.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค โดยจะขยายผลเข้าตรวจสอบหาโรงงานที่ลักลอบผลิต นำเข้าและจำหน่าย หากพบผู้รับอนุญาตฯ รายใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและใช้มาตรการทางปกครองทันที สำหรับผู้ผลิตเครื่องสำอางควรเลือกวัตถุดิบแอลกอฮอล์สำหรับผลิตเจลแอลกอฮอล์ให้ดีก่อนซื้อมาผลิต ห้ามใช้เมทิลแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายกับผู้บริโภค แนะให้ซื้อจากแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือและขอเอกสารระบุรายละเอียดของวัตถุดิบ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ นอกจากนี้ ในกรณีที่พบแป้งเปียกผสมสีบรรจุขวด ติดฉลากว่าเป็นเจลแอลกอฮอล์ จัดเป็นเครื่องสำอางปลอม โทษมีทั้งจำคุกหรือปรับ ซึ่ง อย. พร้อมเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคทุกกรณี
“เน้นย้ำสำหรับผู้บริโภคอย่าซื้ออุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 ทางเว็บเพจหรือสื่อออนไลน์มาใช้โดยเด็ดขาด เพราะในการตรวจวิเคราะห์จะต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่มีความชำนาญในการอ่านและแปลผล หากมีการตรวจด้วยตนเองแล้วเกิดข้อผิดพลาดอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อ จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อมากขึ้น โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ Oryor Smart Application หรือ อย.ตรวจเลข หรือ Line @ Fdathai อีกทั้ง ฝากถึงประชาชนผู้บริโภค ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1135 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อ อย. จะได้ทำการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาดต่อไป” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
