MGR Online - รองโฆษก ตร.เผยต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ ตร.ท่องเที่ยว ตั้งแก๊งรีดเงินเสี่ยร้านรับซื้อของเก่าเมืองชุมพร เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหาหนัก
วันนี้ (3 เม.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอกรณี “หนุ่มแจ้งความ ถูกชายฉกรรจ์อ้างเป็น ตร. ขู่รับของโจร รีดเงิน 8 หมื่นบาท” ในพื้นที่ สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.เมืองชุมพร ว่า จากการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ ทราบว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมดจำนวน 9 ราย สามารถพิสูจน์ทราบได้แล้วจำนวน 5 ราย ตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย, เจ้าหน้าที่บริหารทางการเงิน (ไฟแนนซ์) 1 ราย, นักข่าว 3 ราย ในส่วนผู้ก่อเหตุอีก 4 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าเป็นผู้ใด มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร
ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ตาม ป.อาญา ม.362 ประกอบ ม.80 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตาม ป.อาญา ม.337 ประกอบ ม.80 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และเป็นซ่องโจร ตาม ป.อาญา ม.210 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว โดยหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ ว่ากันไปตาม ข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ปรากฏ
ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับและมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537
หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอดไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี