MGR Online - ผู้เสียหาย 250 ราย เข้าร้องทุกข์ “ดีเอสไอ” ถูก บริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป จำกัด ชักชวนลงทุน อ้างว่า เป็นบริษัทซื้อขายดัชนีหุ้นมาจากสหรัฐอเมริกา เสียหายร่วม 235 ล้านบาท กระทั่งจับกุมผู้กระทำผิด 11 ราย และศาลตัดสินร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ ผู้ต้องหาคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย
วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษที่ 103/2560 กรณีบริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป จำกัด กับพวก มีพฤติการณ์เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นบริษัทซื้อขายดัชนีหุ้นมาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งบริษัทมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งพฤติการณ์ของขบวนการนี้มีการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยให้กลุ่มหนึ่งจัดบรรยายชักชวนผู้เสียหายในประเทศไทยให้หลงเชื่อร่วมลงทุนกับบริษัท และอีกกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่ในการยักย้ายถ่ายโอนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากผู้เสียหาย คดีนี้มีผู้เสียหายประมาณ 250 ราย เข้ามาร้องเรียนกับ ดีเอสไอ มูลค่าความเสียหายประมาณ 235 ล้านบาท และได้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 63 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษา กรณี บริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป จำกัด กับพวก ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3-10 ที่ 12-13 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5, 7, 25, 32 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง 9, 11/1, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้ง 11 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นรายกระทงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาญากรรมข้ามชาติ และ ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด โดยทั้ง 11 คน ร่วมกันคืนต้นเงินให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 229 คน ตามตารางที่แนบท้ายคำพิพากษา พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จ่ายสินบนและรางวัลนำจับตามกฎหมาย สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 11 ให้ยกฟ้อง
สำหรับผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 9 ราย ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 2 ราย ประกอบด้วย ผู้ต้องหาชาวอเมริกัน 1 ราย และผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 1 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เหลือ ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน 1 ราย ชาวเนเธอร์แลนด์ 3 ราย และ ชาวสิงคโปร์ 3 ราย อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างชาติติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ดีเอสไอ มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกัน และปราบปราม อาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังการชักชวนให้ลงทุนที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ แม้ว่าจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยวิธีต่างๆ หรือการโฆษณาชวนเชื่อว่า มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ ขออย่าได้ไว้วางใจโดยเฉพาะหากมีพฤติการณ์ในการชักชวนลงทุนดังกล่าว ขอให้ตรวจสอบความเป็นมาของบริษัทหรือประวัติของผู้ชักชวนให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และหากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ที่ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือทางสายด่วน 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ