MGR Online - รองโฆษก ตร.ยันเอาผิดขบวนการกักตุนสินค้า-โก่งราคา-ขายสินค้าไม่ได้คุณภาพ แจงหน้ากากอนามัย ที่ยึดได้ 2 แสนชิ้น เป็นของกลางคดีอาญา ไม่สามารถนำมาแจกจ่าย ปชช.ได้ ย้ำทำคดี “ศรสุวีร์” ตรงไปตรงมาไม่มีมวยล้มต้มคนดู
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงมาตรการปราบปรามผู้ที่กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา การกักตุนสินค้า และการขายสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ว่า ล่าสุด สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 88 ราย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยยึดหน้ากากอนามัยได้กว่า 2 แสนชิ้น ส่วนความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จในโซเชียลมีเดีย ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมได้หลายคดีแล้ว มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนประเด็นที่ประชาชนสงสัยเรื่องหน้ากากอนามัยของกลางที่ตำรวจยึดได้เป็นของกลางให้นำมาแจกให้กับประชาชนนั้น หน้ากากอนามัยถือเป็นของกลางในคดีอาญา แม้ยึดมาได้กว่าแสนชิ้น ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ที่โพสต์ข้อความอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนทำคดีอย่างถึงที่สุด ยืนยันไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน หากสืบสวนพบว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัยจริงและมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือใครก็ตาม ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานมามอบเมื่อวานนี้ว่ามีบริษัทเอกชน 14 บริษัท และมีที่ปรึกษารัฐมนตรี และพรรคการเมืองต่างๆ เกี่ยวข้องกับขบวนการที่ทำให้หน้ากากอนามัยขายตลาด เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ซึ่งหากมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนประเด็นที่ลูกสาว อดีตผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของรัฐที่ยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ อยากให้มองการงานในภาพรวมมากกว่า ยืนยันว่า ทุกหน่วยมีความตั้งในในการปฎิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19