กลายเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง... หลังชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำกำลังจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์หลายสมัย พร้อมพวกรวม 3 คน หลังพบว่ามีส่วนพัวพันฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่รับผิดชอบคดีโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน
โดย 1 ใน 3 ผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพว่าได้ฆาตกรรมพี่ชายของผู้พิพากษา ก่อนเผาอำพรางศพในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ดำเนินการสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสองฝ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 20 มี.ค. 2563 เวลา 09.00 น. กระทั่งมีการฆาตกรรมพี่ชายของผู้พิพากษา
ปฐมบทของเรื่องราวโหดเหี้ยมที่ยาวเป็นซีรีส์... เริ่มจากเวลา 4 ทุ่มของวันที่ 26 มิถุนายน 2558 พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ พร้อมด้วยนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุนกิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 ออกรอบตีกอล์ฟที่สนามเลควูดด้วยกัน จากนั้นได้ขับรถยนต์เลกซัส สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร โดย พ.ต.ท.บรรยินเป็นคนขับ เมื่อถึงฝั่งตรงข้ามซอย 61 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ รถเกิดเสียหลักไปชนกับต้นไม้ข้างทางทำให้เสี่ยชูวงษ์เสียชีวิตทันที
ตอนแรกญาติๆ ก็ไม่ได้ติดใจสงสัย จึงทำพิธีฌาปนกิจศพ แต่เมื่อตรวจสอบเอกสารที่ส่งมาถึงผู้ตายทำให้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุในระยะเวลา 10 วัน ทางบริษัทหลักทรัพย์แจ้งว่าผู้ตายได้โอนหุ้นในนามของผู้ตายเข้าไปไว้ในบัญชีหุ้นของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาว จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 228 ล้านบาท และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล อายุ 25 ปี โบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งมูลค่าเกือบ 40 ล้าน ซึ่งทั้งสองคนมีความสนิทกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน
ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ยิ่งเคลือบแคลงใจ ทั้ง น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง นายกันต์ แซ่ตั๊ง พี่สาว, ภรรยาและบุตรชายของนายชูวงษ์ พร้อมด้วยนายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. (ขณะนั้น) โดยตั้งประเด็นสงสัยว่า 1. รถออกมาจากสนามกอล์ฟเวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งเมื่อคำนวณระยะทางจากสนามกอล์ฟถึงที่เกิดเหตุประมาณ 30 กิโลเมตร รถยนต์คันเกิดเหตุน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่าภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยินโทรศัพท์แจ้งให้ครอบครัวของผู้ตายทราบเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.
2. รถขับมาด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เชื่อว่าจะทำให้เสียชีวิตได้ง่ายดายเช่นนี้ 3. ต้นไม้ที่ชนก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก 4. รถยนต์บุบสลายไม่มาก กระจกไม่แตก ส่วนจุดชนก็เอียงมาข้างคนขับ มิใช่ส่วนที่ตรงกับที่นั่งโดยสารที่นายชูวงษ์ ผู้ตายนั่ง 5. ในที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยห้ามล้อของรถยนต์คันเกิดเหตุอีกด้วย คือคนขับไม่ได้เบรกรถก่อนชนต้นไม้เลย และ 6. เรื่องบาดแผลต้องให้แพทย์ชันสูตรว่าเสียชีวิตก่อนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่
ต่อมาเรื่องได้ถูกส่งมาให้ตำรวจกองปราบปรามเข้าไปคลี่คลายคดี โดย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.(ตำแหน่งขณะนั้น) ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมาชุดหนึ่ง โดยขั้นแรกให้ดำเนินการในกรณีโอนหุ้นของนายชูวงษ์กว่า 300 ล้านบาทก่อนว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง
...กระทั่งปริศนาที่ดำมืดก็ค่อยๆ คลายออกมาทีละนิดๆ จนพบว่าเรื่องนี้มี พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องสงสัยของครอบครัวตั้งแต่แรกก็เผยโฉมหน้าออกมา เมื่อตำรวจพบว่าเขาได้ใช้ปากการุ่นพิเศษที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น สามารถเขียนและลบได้ ปลอมลายเซ็นของนายชูวงษ์ โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวไปให้ น.ส.กัญฐณา และ น.ส.อุรชา
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมโอนหุ้นนั้นไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์ แต่เป็นเบอร์ที่จดในนามบริษัทของคนใกล้ชิด พ.ต.ท.บรรยิน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทั่งศาลได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร ซึ่งคดีนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามและปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. 2559 พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.(ยศตำแหน่งขณะนั้น) นำกำลังตำรวจกองปราบปราม พร้อมหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง จ 401/2559 ลงวันที่ 27 มิ.ย. จับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ โดยจับกุมได้ที่ทาวน์สแควร์ สวีท รีสอร์ต เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังหลักฐานระบุว่ามีส่วนพัวพันฆ่าอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่ามีการใช้ของแข็งทุบตีนายชูวงษ์จนถึงแก่ความตายก่อนจะมาจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ อีกทั้งยังได้มีการเตรียมการไว้ก่อน โดยมีการนัดหมายนายพาชูวงษ์ไปเล่นกอล์ฟในตอนมืดค่ำ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
นอกจากนี้ ทางกองปราบปรามได้รื้อคดีครั้ง พ.ต.ท.บรรยิน ดำรงตำแหน่งยศ ร.ต.ท.ที่ จ.นครสวรรค์ แล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนจนทำให้ น.ส.รสรินทร์ ศรีนุกูล ภรรยาเสียชีวิต เนื่องจากรถสิบล้อสวนทางมา และหักหลบจนชนต้นไม้
จากการตรวจสอบพยานที่สนิทกับ น.ส.รสรินทร์ ทุกคนต่างเคลือบแคลงสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.รสรินทร์ เนื่องจากว่า น.ส.รสรินทร์ขับรถไม่เป็น แต่ในบันทึกประจำวันเมื่อครั้งเกิดเหตุกลับระบุว่า น.ส.รสรินทร์เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว รวมไปถึงสภาพบาดแผลพบว่าคอหักซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว รวมทั้งหลังเกิดอุบัติเหตุ มีการฌาปนกิจศพอย่างเร่งรีบ ในส่วนนี้ตำรวจได้นำมาเป็นโมเดลในการทำคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ว่ามีลักษณะพฤติการณ์ที่คล้ายกันด้วย แต่เนื่องด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานทำให้หลักฐานสำคัญสูญหายไป เลยเอาผิดอะไรต่อ พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้
ย้อนกลับมาที่คดีโอนหุ้น... จากนั้นพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้สรุปสำนวนคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์เสร็จสิ้น โดยสำนวนมีความหนา 9 แฟ้ม รวม 3,335 แผ่นส่งอัยการพิจารณา แต่สำนักงานอัยการกรุงเทพใต้สั่งไม่ฟ้อง สำนวนจึงตีกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เห็นแย้ง เนื่องจากหากคดีโอนหุ้นถูกสั่งไม่ฟ้องจะกระทบต่อคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ จึงเสนออัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดจนมีการสั่งฟ้อง ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ดำเนินการสืบพยานโจทก์-จำเลยทั้ง 2 ฝ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 20 มี.ค. 2563 เวลา 09.00 น.นี้ กระทั่งมีการฆาตกรรมพี่ชายของผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวเสียก่อน