อัยการสั่งฟ้อง “ผอ.กอล์ฟ” อ่วม 9 ข้อหา ทั้งฆ่าผู้อื่น-ชิงทรัพย์-ยิงปืน ก่อนยื่นฟ้องศาลอาญาในช่วงบ่ายวันนี้ มั่นใจแม้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ขอให้ศาลสืบพยานประกอบเพื่อพิพากษาลงโทษสถานหนักได้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (20 ก.พ.) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา นายพรชัย ชลวณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดีคนร้ายฆ่าชิงทองที่ จ.ลพบุรี และนายเชาว์ บุญฤทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ร่วมแถลงข่าวว่า คณะทำงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ เขาแก้ว อายุ 38 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาฆ่าชิงทองในห้างดัง จ.ลพบุรี รวม 9 ข้อหา คือ 1. ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่น ที่ตนได้กระทำไว้ 2. พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 3. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส 4. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน 5. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว 6. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 7. มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ 8. ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ 9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า อัยการได้รับสำนวนการสอบสวนคดีจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (กก.2 บก.ป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีร้านทองผู้เสียหายและครอบครัว ญาติผู้เสียชีวิต คือ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด โดย นายอภิสิทธิ์ ไชยทะนี, พ.ต.อ.ประวิทย์ ยงยุทธ์, นายยงยุทธ ชุนสนิท, นางสุภาวดี ชุนสนิท, นายประเสริฐ คงลี, น.ส.วิไลวรรณ ยังรอด, ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์, นางเฉลา นิ่มมา และน.ส.เปมิกา กลิ่นดอกแก้ว เป็นผู้กล่าวหาที่ 1-9 จากนั้นนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดพิจารณาสำนวนคดีอย่างละเอียดรอบคอบ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าสำนวนคดีมีความสมบูรณ์ ไม่มีประเด็นสอบเพิ่มเติม คณะทำงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหา จากนั้นจึงเสนอความเห็นไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเพื่อพิจารณาสั่งคดี ปรากฏว่าอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญามีสั่งฟ้องทุกข้อหา และจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในช่วงบ่ายวันนี้
ด้านนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า คดีนี้สำนวนการสอบสวนของตำรวจที่ส่งมาให้นั้น พนักงานอัยการได้ตรวจสำนวนคดีแล้วพบว่ามีนายประสิทธิชัยผู้ต้องหากระทำผิดเพียงคนเดียว ยังไม่ปรากฎว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดหรือสนับสนุนการกระทำผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำขอท้ายฟ้องอัยการจะขอให้ลงโทษนายประสิทธิชัย ผู้ต้องหาสถานหนักหรือไม่ และเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ญาติผู้ตายหรือผู้เสียหายได้รับจะดำเนินการอย่างไร
นายสิงห์ชัยกล่าวว่า ประเด็นแรกในคำฟ้อง เราได้บรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ขณะเดียวกัน เรายังขอให้ศาลพิจารณาคดีโดยรวดเร็วด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ ส่วนความเสียหายนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44 (1) ระบุว่า ผู้เสียหายสามารถที่จะขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่เกิดจากชีวิตร่างกายทรัพย์สิน ซึ่งผู้เสียหายจะต้องยื่นคำร้องเข้ามาก่อนการเริ่มสืบพยาน ซึ่งพนักงานอัยการได้ประสานงานกับพนักงานสอบสวนท้องที่เพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายทราบและยื่นคำร้องเข้ามาว่าได้รับความเสียหายอย่างไร ทั้งนี้ สามารถยื่นต่อศาลอาญา หรือยื่นต่อพนักงานอัยการที่รับผิดชอบสำนวนคดีได้เช่นกัน
ด้านนายประยุทธกล่าวเสริมว่า ในชั้นสืบพยานผู้เสียหายที่เป็นสามีภรรยา ผู้บุพการีผู้สืบสันดานสามารถขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ เพื่อนำสืบพยานหลักฐานและขอเรียกค่าสินไหมทดแทน เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา โดยทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลอาญาหลังจากอัยการฟ้อง โดยจะต้องนำสืบถึงความสูญเสียจากการกระทำของจำเลยเพื่อเรียกค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายทางจิตใจ พร้อมดอกเบี้ย และหากศาลพิพากษาเต็มตามฟ้อง สำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะหน่วยงานกฎหมายของรัฐ ก็จะสนับสนุนให้คำแนะนำ ในเรื่องการบังคับคดีทั้งแพ่งและอาญา
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พนักงานอัยการเตรียมพยานที่จะนำสืบอย่างไรบ้าง
นายสิงห์ชัยกล่าวว่า กระบวนการในชั้นศาล หลังจากอัยการยื่นฟ้องแล้ว ศาลก็จะสอบถามคำให้การจำเลย หากจำเลยให้การรับสารภาพ เนื่องจากว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ตามกฎหมายจะต้องสืบประกอบคำรับสารภาพจนกว่าศาลจะพอใจและเห็นว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดและพิจารณาลงโทษ ดังนี้ในการกำหนดตัวพยาน คณะทำงานก็จะพิจารณาพยานที่มีความสำคัญมาเบิกความต่อศาล แต่หากจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นศาล การสืบพยานก็จะดำเนินการเต็มรูปแบบ ตามที่ปรากฏในสำนวนคดี เช่น พยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคลให้ครบถ้วน และในคำฟ้องของเราก็จะคัดค้านการประกันตัวอยู่แล้วจนกว่าจะมีคำพิพากษา
เมื่อถามถึงการสืบพยานในชั้นศาล อัยการจะสืบพยานละเอียดมากน้อยเพียงใด นายพรชัยกล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่าคดีนี้คณะทำงานอัยการพิจารณาสั่งคดีอย่างละเอียดรอบคอบ พยานหลักฐานทั้งหมดที่เราตรวจในการสั่งสำนวนคดี แม้กระทั่งร่างฟ้อง เราตรวจดูแล้วเห็นว่าพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลย ในการสืบพยานนั้นประเด็นสำคัญที่สุด เราจะต้องชี้ให้ศาลเห็นว่าการรับสารภาพของจำเลยนั้น ไม่ได้สำนึกผิด แต่เป็นการจำนนต่อหลักฐาน และการรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา แต่ศาลจะลงโทษสถานหนักหรือไม่นั้นเป็นดุลยพินิจของศาล
เมื่อถามว่าอาวุธปืนและท่อเก็บเสียงอาวุธปืนที่เป็นหลักฐานสำคัญในการลงโทษผู้กระทำผิด เราได้ครบถ้วนหรือไม่ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้อาวุธปืนจากพ่อของนายประสิทธิชัย ผู้ต้องหา ส่วนท่อเก็บเสียงอาวุธปืนนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้มา เนื่องจากผู้ต้องหานำไปทิ้งแม่น้ำ แม้จะเป็นหลักฐานสำคัญเช่นกันที่ไม่ได้มา แต่พนักงานสอบสวนก็ได้ไปเอาตัวอย่างท่อเก็บเสียงอาวุธปืนแบบเดียวกัน จากผู้ผลิตมาเปรียบเทียบให้ศาลเห็น
ส่วนการสืบพยานในศาลนั้น คดีนี้ก็มีประจักษ์พยานบุคคลที่เห็นผู้ต้องหาขณะปิดหน้าปิดตา แต่ไม่เห็นใบหน้าผู้ต้องหา เราจึงต้องมีพยานแวดล้อมอื่นๆ มาสืบและชี้ให้ศาลเห็น ซึ่งอาจจะต้องสืบพยานประเด็นนี้ให้ละเอียดมากขึ้นเพื่อจะนำไปสู่การลงโทษผู้ต้องหาประกอบคำรับสารภาพ
ต่อมาในช่วงบ่ายพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ได้นำสำนวนมายื่นฟ้อง นายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ เขาแก้ว อายุ 28 ปี อดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฯ 2. พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 3. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส 4. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน 5. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว 6. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 7. มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ 8. ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ 9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต รวม 9 ข้อหา
โอัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2563 จำเลยได้มีอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม.ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิง นายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างฯ รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองโอโรร่า จนถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัทออโอร่าดีไซด์ จำกัด ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ก่อนขี่ จยย.หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ขอคัดค้านการประกันตัวจำเลย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด ทั้งให้จำเลยคืนสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น ราคา 12,300 บาท และจี้ทองคำรูปหัวจรวด น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 1,565 บาท หรือใช้ราคาทรัพย์รวมเป็นเงิน 13,955 บาท แก่ผู้เสียหาย บริษัท ออโอร่าดีไซด์ จำกัด ด้วย
ศาลพิจารณาแล้วได้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา หมายเลขดำ อ.409/2563 และเบิกตัวจำเลยมาสอบคำให้การในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 09.00 น.