MGR Online - ผบก.ป.เผยปฏิบัติการจับตายจ่าคลั่งกราดยิง ปชช.ก่อนหลบหนีและจับตัวประกันเข้าไปอยู่ภายในห้องเย็นของห้างเทอร์มินอล 21 โดยไม่ยอมจำนนและยิงต่อสู้ จนท.
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เปิดเผยถึงปฏิบัติการจับตาย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา นายทหารสังกัดกองสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 ที่ก่อเหตุยิงกราดยิง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และหลบหนีเข้าไปอยู่ในห้างเทอร์มินอล 21 ว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้มีการสนธิกำลังของ 4 ชุดเฉพาะกิจประกอบด้วย หน่วยหนุมาน กองบังคับการปราบปราม หน่วย commando กองบังคับการตำรวจราชวัลภลรักษาพระองค์ 904, หน่วยอรินทราช 26 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และหน่วยนเรศวร 261
พล.ต.ต.จิรภพกล่าวว่า ภารกิจแรก คือ การอพยพคนที่อยู่ภายในห้าง Terminal 21 ออกมาให้ได้มากที่สุด เปิดปฏิบัติการนำทัพ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 21.00 น. แบ่งกำลัง-บล็อกบริเวณบันไดเลื่อน 3 จุด และบันไดหนีไฟ 2 จุด นอกจากนี้ยังแบ่งกำลังล้อมรอบประตูภายนอก โดยเฉพาะบริเวณชั้น LG ที่มีทางออกไปนอกห้างได้ จากนั้นกำลังตำรวจได้ทยอยนำคนที่ยังติดอยู่บริเวณชั้นต่างๆ ของห้าง Terminal 21 กว่า 1,000 คน ออกมาด้านนอก ขณะที่บางคนซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งกองปราบปรามได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้คนที่ยังติดอยู่ inbox เข้ามาในเพจ Facebook ของกองปราบปราม หรือโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณใดก็จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปรับ ตลอดระยะเวลาที่มีการประชาสัมพันธ์ ตลอดทั้งคืน มีประชาชนแจ้งข้อมูลผ่านเพจ Facebook ของกองปราบปราม และโทรศัพท์มาที่สายด่วนกองปราบปรามเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.จิรภพกล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. มีการปะทะกันในรอบแรก คนร้ายได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ จึงมีการยิงสวนเข้าไป และเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าคนร้ายน่าจะเก็บตัวประกันไว้บางส่วน หลังจากสถานการณ์การยิงปะทะคลี่คลายลง เสียงปืนเงียบไป เจ้าหน้าที่ยังคงกระชับพื้นที่เพื่อตามหาตัวคนร้ายว่าอยู่บริเวณใด จากนั้นได้มีคนติดต่อทางเฟซบุ๊กของกองปราบปราม โดยอ้างว่าถูกคนร้ายจับกุมตัวอยู่ในห้องเย็นของชั้น LG ไม่มีอากาศหายใจ และอากาศกำลังจะหมด ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะคิดว่าคนร้ายอาจจะใช้เฟซบุ๊กของตัวประกันในการหลอกติดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ในช่วงเวลานั้นเจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงเข้าไปยังห้องเย็น เพราะคิดว่าตัวประกันออกมาเกือบหมดแล้ว ความเสี่ยงในการสูญเสียก็จะน้อยลง
“ปฏิบัติการจู่โจมภายในห้องเย็นจึงเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 9 ก.พ. โดยมีเป้าหมายจับตาย เพราะนาทีนั้น คนร้ายยังคงยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ และไม่มีท่าทีที่จะยอมจำนน กระทั่งสถานการณ์สงบก็พบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต และเมื่อตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว พบว่ายังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าถูกคนร้ายยิงก่อนที่จะเปิดปฏิบัติการบุกห้องเย็น เพราะพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้มีลักษณะกราดยิงไปตามห้องต่างๆ ภายในชั้น LG” ผบก.ป.กล่าว