หลักฐานนิติวิทย์มัด ผอ.ฆ่าชิงทอง แม้ไม่พบลำกล้องปืนเก็บเสียงที่ก่อเหตุ

MGR online - กองปราบรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนสรุปสำนวนคดีผอ.ฆ่าชิงทอง กลางห้างมืองลพบุรี มั่นใจหลักฐานแน่นหนา แม้ไม่พบลำกล้องปืนเก็บเสียง ก่อนส่งฟ้องอัยการ

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีจับกุม นายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ เขาแก้ว อายุ 38 ปี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาคดีปล้นทอง และฆ่า 3 ศพ ที่ร้านทองออโรร่าภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาว่าทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เร่งรัดสอบปากคำพยานในส่วนที่เหลือให้ครบถ้วนและรัดกุมมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะต้องรอสอบปากคำส่วนที่เหลือแล้ว เจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างรอผลตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิเช่น ผลตรวจดีเอ็นเอของคนร้าย ที่เจ้าหน้าที่ตามเก็บมาได้จากจุดต่างๆที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้หลังก่อเหตุ เช่น หมวกไหมพรม หรือ เสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ

นอกจากนี้พนักงานสอบสวน ก็อยู่ระหว่างรอผลตรวจอาวุธปืนของกลาง และกระสุนปืน ซึ่งเมื่อผลตรวจหลักฐานทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะได้นำเข้าสู่สำนวนการสอบสวน จากนั้นก็จะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่า ยังมีอะไรขาดตกบกพร่องอีกบ้าง เสร็จแล้วก็จะนำตัวผู้ต้องหาส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า จากการสอบสวนนายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังได้สอบถามอีกด้วยว่า ทองคำที่ปล้นมาจะนำไปขายต่อที่ไหน เพราะผู้ต้องหาเป็นครู ไม่น่าจะรู้จักแหล่งขายใต้ดิน นายประสิทธิชัย บอกว่า ตนยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร และนำไปขายต่อได้ที่ไหนบ้าง เพราะหากนำออกไปขายก็ต้องถูกจับแน่นอน เลยทำให้ต้องเอาไปซ่อนไว้ก่อน

ส่วนกรณีหลักฐานลำกล้องปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ และท่อเก็บเสียงที่ผู้ต้องหาอ้างว่านำไปโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งก็มีทีมนักประดาน้ำของกองบังคับการตำรวจน้ำ ลงไปดำค้นหาแล้ว แต่ก็มีรายงานว่า นักประดาน้ำทำงานด้วยความลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นผิวใต้น้ำตรงจุดดังกล่าว เต็มไปด้วยก้อนหินมีซอกมุมเยอะ ทำให้การงมค้นหายากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่า ผู้ต้องหาโกหก หรือไม่ก็หลักฐานตกลงไปอยู่ในซอกหิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังได้นำเครื่องมือตรวจจับโลหะมาตรวจแล้ว ก็พบว่าพื้นผิวใต้น้ำตรงนั้น เต็มไปด้วยตะกั่วตกปลา เนื่องจากมีคนมาตกปลากันเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะค้นหาหลักฐานทั้งสองชิ้นไม่เจอ แต่พนักงานสอบสวนก็ไม่หนักใจอะไร เนื่องจากยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่สามารถรองรับผลทางคดีได้ชัดเจนและแน่นหนาอยู่แล้ว