บิดาสาวร้านทองออโรร่า 1 ใน 3 เหยื่อกระสุนเหตุฆ่าชิงทองกลางห้างลพบุรี ปฏิเสธข่าวลือลูกสาวมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ “ผอ.กอล์ฟ” ผู้ต้องหา ย้ำไม่อโหสิกรรม อยากถามฆ่าผู้บริสุทธิ์ทำไม ด้านพ่อหนุ่ม รปภ.จวกพฤติกรรมสุดโหดร้ายเลือดเย็น ขอให้ลงโทษประหาร
วันนี้ (22 ม.ค.) ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาฆ่าชิงทองที่ จ.ลพบุรี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ บิดาของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ หรือ กวาง พนักงานร้านทองออโรร่า สาขาห้างโรบินสันลพบุรี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวมีการจับคนร้ายได้แล้ว ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เนื่องจากได้ข้อมูลหลายกระแสว่าอาจเป็นบุคคลอื่น ต้องรอการแถลงข่าวจาก ผบ.ตร. อย่างเป็นทางการ และหากมีพยานหลักฐานชี้แจงชัดเจน ก็พร้อมที่จะเชื่อ ทั้งนี้ ตั้งแต่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ก็ยังไม่มีการได้รับการติดต่อ หรือเชิญตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็น่าเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นการจับแพะอย่างแน่นอน และอยากให้เป็นคนร้ายตัวจริง
ร.อ.สุรกิต กล่าวอีกว่า ไม่อโหสิกรรมให้กับคนร้ายที่ก่อเหตุเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมกับลูกสาวของตน หลายคำถามที่อยากจะพูด แต่ยังไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่อยากจะถามว่าเหตุใดจึงก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมกับผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ เคยบอกอยากให้จับตายคนร้าย ซึ่งหากมีการต่อสู้ขัดขืน แต่ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือก็ขอให้เป็นตามกระบวนการตามกฎหมาย และถูกประหารตายตามกันไป
“ขอปฏิเสธกรณีมีข่าวบุตรสาวมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้ต้องหาในคดี โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าคนๆ นี้ คนชื่อนี้มาก่อน ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวไปได้เลย จบนะครับ”
ขณะที่ นายวัลลภ นิ่มมา บิดาของ นายธีรฉัตร นิ่มมา พนักงาน รปภ. ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีการจับตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเป็นคนร้ายในเหตุการณ์ได้แล้ว หากเป็นเรื่องจริงต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ และหากเจอกับคนร้ายก็อยากบอกกับคนร้าย ว่า ทำไมถึงมีพฤติกรรมโหดร้ายเช่นนี้ เป็นถึงผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีวุฒิการศึกษา หรือว่าการศึกษาไม่ทำให้เขาดีขึ้น เขาควรมีวุฒิภาวะที่ดีกว่านี้ ทั้งนี้ รู้สึกว่าคนร้ายเป็นคนเลือดเย็นมาก และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ได้มีการสั่งเสียหรือร่ำลากับบุตรชาย
“ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมตัวได้ ก็อยากให้มีบทลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต เนื่องจากหากคนร้ายได้รับโทษ ก็จะติดคุกประมาณ 15 ปี และเมื่อพ้นโทษออกมาก็อาจก่อเหตุซ้ำอีก หากแก้กฎหมายได้ อยากให้แก้กฎหมายให้มีความยุติธรรมมากกว่านี้ ทั้งนี้ ยืนยันจะไม่อโหสิกรรมให้กับคนร้าย เพราะอโหสิกรรมไปก็ไม่ทำให้จิตใจของผู้ร้ายสูงขึ้น” นายวัลลภ กล่าว