MGR online - ป.ป.ส.ผนึกกำลังหน่วยงานภาคี ตามรวบผู้สั่งการใช้รถพยาบาลและรถหน่วยกู้ภัยลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ลงพื้นที่ภาคใต้ ก่อนส่งลงเรือไปขายต่างประเทศ โดยยึดไอซ์ได้เกือบ 2 พันกิโลกรัม และคีตามีนอีก 81 กก.
วันนี้ (22 ม.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย.61 สำนักงาน ป.ป.ส. สนธิกำลังกับหน่วยงานภาคีสกัดจับขบวนการลำเลียงไอซ์จากชายแดนภาคเหนือ โดยใช้รถพยาบาลหรือรถหน่วยกู้ภัยอำพรางในการลำเลียง โดยจับผู้ต้องหาได้ 7 คน ยึดไอซ์ 398 กก. และคีตามีนอีก 81 กก. ในพื้นที่ จ.พะเยา แต่ทั้งหมดเป็นเพียงผู้รับจ้างลำเลียงเท่านั้น จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานได้นำไปสู่การขออนุมัติหมายจับ นายพเยาว์ เส็งหนองแบน และ น.ส.สุรีรัตน์ รื่นพิทักษ์ ผู้สั่งการและทำหน้าที่ควบคุมการลำเลียงจากภาคเหนือไปยังพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้
นายนิยม เผยอีกว่า ในระหว่างการติดตามจับ นายพเยาว์ และ น.ส.สุรีรัตน์ อยู่นั้นก็ได้สืบสวนทราบว่า นายพเยาว์ กำลังเตรียมการลำเลียงไอซ์จำนวนมากเข้าประเทศไทยทางชายแดนด้านตะวันตก ซึ่งประกอบกับให้เบาะแสเพิ่มเติมจากประชาชนผ่านสายด่วน 1386 จนนำไปสู่การพิสูจน์ทราบรถบรรทุกที่ใช้ในการลำเลียงไอซ์ และในที่สุดก็สามารถจับยึดไอซ์ประมาณ 1,500 กก. พร้อมกับผู้ต้องหา 1 คน ในโกดังแห่งหนึ่งย่าน จ.ปทุมธานี เมื่อเดือน มิ.ย.62 ซึ่งทราบว่าไอซ์จำนวนดังกล่าวจะถูกส่งต่อทางเรือไปยังต่างประเทศ
"สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยภาคีได้ทำการสืบสวนต่อเนื่องรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวอีกหลายราย รวมถึง นายพเยาว์ และกำหนดให้บุคคลกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายสำคัญในลำดับต้นๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 ทราบว่า นายพเยาว์ และ น.ส.สุรีรัตน์ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ทำการสืบสวนติดตามบุคคลที่อยู่เบื้องหลังในการลักลอบส่งออกไอซ์ไปต่างประเทศจึงได้เฝ้าติดตามและจับตัวได้ทั้ง 2 ราย พร้อมทำการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินควบคู่กันไป และจะยังคงติดตามจับบุคคลในขบวนการที่เหลือต่อไป" นายนิยม กล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวตอนท้ายว่า การดำเนินการต่อผู้กระทำผิดรายสำคัญเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญกับการขยายผลเพื่อนำตัวนายทุนหรือผู้สั่งการมาลงโทษ พร้อมทั้งโดยใช้มาตรการยึดทรัพย์สิน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ หากพบเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ตลอด 24