MGR Online - ชุดสืบสวน บช.น.แกะรอยจับ “ไอ้ไอซ์” ลูกชายอดีตเสี่ยเจ้าของตลาดดังย่านเพชรเกษม 47 เมาจนเพี้ยนฆ่า “น้องกิ๊ก” สาวไซด์ไลน์ยัดหีบฝังดิน พบประวัติเคยก่อคดีพรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็กสาว เพิ่งพ้นโทษปี 60
วันนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัฉริยประดิษฐ์ รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. ชุดสืบสวน กก.ดส. บก.สส.บช.น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 จำนวน 14 นาย ลงพื้นที่ซอยเพชรเกษม 47 กทม. หลังขอหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักในซอยเพชรเกษม 47 แขวงบางแค เขตบางแค กทม. ของนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือไอซ์ อายุ 41 ปี ลูกเจ้าของตลาดดัง เพื่อค้นหาร่างของ น.ส.วรินทร์ธรณ์ ไชยเชษฐ หรือน้องกิ๊ก อายุ 22 ปี สาวไซด์ไลน์ ที่ญาติแจ้งว่าหายตัวไป หลังมาคบหาอยู่กับนายอภิชัยเมื่อเดือนตุลาคม 2562
โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น้องกิ๊กได้ถูกกักขังไว้ทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วฝังศพไว้ในถุง จากการตรวจสอบบ้านชั้นเดียวติดกัน 3 หลัง หน่วยอรินทราชและชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว โดยบุกเข้าชาร์จตัวได้ ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ขึ้นลำกล้องไว้เตรียมพร้อมยิง ไอซ์ 2 ถุง อุปกรณ์การเสพ ภายในห้องพักของนายอภิชัย รวมถึงมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ภายในบริเวณบ้าน พร้อมทั้งมีถังแก๊สเตรียมยิงให้ระเบิดใส่เจ้าหน้าที่
จากการสอบถามนายอภิชัยทราบว่า เคยคบหากับ น.ส.กิ๊ก เนื่องจากเป็นเด็กไซด์ไลน์แล้วมีอะไรกัน แต่อ้างไม่ทราบว่า น.ส.กิ๊กหายไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาร่าง น.ส.กิ๊ก จากการสอบปากคำเพื่อนของนายอภิชัยที่รู้จักกันในคุกก่อนมาเป็นพ่อบ้านทราบว่า นายอภิชัยได้ทุบตี น.ส.กิ๊ก แล้วทรมานไว้ในบ้านทุบตีจนเสียชีวิตแล้วยัดใส่ถุงไว้ซ่อนในหีบใส่เสื้อผ้า ก่อนแล้วนำศพมาซุกซ่อนไว้บริเวณพงหญ้าข้างบ้าน ก่อนเจ้าหน้าที่ค้นหาและพบศพ
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.อิทธิพลเปิดเผยถึงผลการสอบสวนว่า นายอภิชัยรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ อายุ 22 ปี โดยช่วงที่เกิดเหตุประมาณปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้พาผู้ตายมานอนค้างที่บ้านพัก จากนั้นนายอภิชัยอ้างว่าได้เสพยาและมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายแล้วเกิดความรู้สึกรัก จึงสั่งให้ผู้ตายลงไปนอนในหีบเหล็กที่เป็นของกลางซึ่งพบภายในบ้าน ก่อนใส่กุญแจล็อกไว้เพราะกลัวผู้ตายหลบหนี เเต่ตื่นเช้ามาพบว่าผู้ตายขาดอากาศหายใจจึงเรียกลูกจ้างซึ่งมักจะมั่วสุมเสพยาด้วยกันมาช่วยขุดหลุมฝังศพ
พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวต่อว่า ตำรวจไม่ปักใจเชื่อผู้ต้องหา ต้องรอขุดศพขึ้นมาตรวจสอบและส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานและนิติเวชร่วมกันชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งว่าพบบาดแผลในตัวผู้ตายหรือไม่ เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานหลายเดือนแล้ว ก่อนมอบหมายให้ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 เป็นผู้ดูแลสำนวนการสอบสวนของตำรวจ สน.เพชรเกษม เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชัยเคยถูกตำรวจ สน.ภาษีเจริญ บุกเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางอาวุธปืนและยาบ้า รวมถึงเสื้อเกราะกันกระสุน เมื่อปี 2555 หลังมีผู้เสียหายแจ้งความต่อตำรวจว่านายอภิชัยก่อเหตุพรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยวหญิงสาวอายุเพียง 17 ปี โดยถูกจับกุมได้ที่สยามคอมเพล็กซ์แมนชั่น ซอยเพชรเกษม 33/1 ครั้งนั้น นายอภิชัยต้องโทษจำคุกนาน 5 ปี เพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2560 และมาก่อเหตุซ้ำอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นประวัติยังพบด้วยว่านายอภิชัยเกิดในตระกูลเศรษฐีเก่าย่านบางแค เนื่องจากครอบครัวเคยมีธุรกิจตลาดชื่อดังชื่อตลาดองค์วิศิษฐ์ ตั้งอยู่ย่านบางแค ปัจจุบันปิดตัวลงไปแล้วเนื่องจากเมื่อปี 2526 นายเฉลิมชัย องค์วิศิษฐ์ ผู้เป็นบิดา ถูกตำรวจ สน.วัดพระยาไกร จับกุมดำเนินคดีข้อหาฆ่าหั่นศพ ด.ญ.นวลปราง บุนนาค เด็กหญิงลูกจ้าง เพียงเพราะโกรธที่ผู้ตายเคาะกระจกตู้ปลาที่ตัวเองเลี้ยงเอาไว้
โดยขณะนั้นเจ้าหน้าที่พบร่างถูกชำแหละอวัยวะชิ้นส่วนของผู้ตายทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ ทั้งในท้องที่ บช.น.และ ผบช.ภ.7 ต่อมาเมื่อนายเฉลิมชัยพ้นโทษก็ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนภรรยาซึ่งเป็นมารดาของนายอภิชัยหนีไปอยู่ต่างประเทศ ทิ้งไว้เพียงบ้านพักและสมบัติประเภทบ้านเช่า ห้องเช่า เป็นธุรกิจเอาไว้ให้นายอภิชัยใช้เก็บค่าเช่าเลี้ยงชีพเท่านั้น