"ประธานศาลฎีกา" อวยพรปีใหม่ให้คำมั่นคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ผู้ต้องหาและจำเลยโดยคำนึงถึงความสงบของสังคม รวมทั้งเร่งพิจารณาพิพากษาคดีให้รวดเร็ว
นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกาคนที่ 45 ได้มีสารอวยพรปีใหม่ 2563 ระบุว่า " ในศุภวาระวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2563 ที่มาถึงนี้ ผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพระบารมีแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดดลบันดาลพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญพระบารมีแผ่ไพศาลสถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าแก่ประชาชนชาวไทยตราบชั่วนิรันดร์
ในรอบปีที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมในฐานะองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยในฝ่ายตุลาการ ได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกฎหมายและหลักนิติธรรมในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยศาลยุติธรรมได้วางแนวทางในการบริหารจัดการสำนวนคดีโดยกำหนดเป้าหมายว่าศาลชั้นต้นจะพิจารณาพิพากษาคดีให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีนับแต่วันที่รับฟ้อง ส่วนศาลในชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาจะพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่คดีขึ้นสู่ศาลส่งผลให้ในปี 2562 นับถึงต้นเดือน ธ.ค. ศาลยุติธรรมทั่วราชอาณาจักร มีผลงานการพิจารณาพิพากษาให้คดีเสร็จไปจากศาลได้ประมาณ 1,540,000 คดี คิดเป็นร้อยละ 86 ของคดีทั้งหมดที่อยู่ในหน้าที่อำนาจและความรับผิดชอบของศาลยุติธรรม
ในโอกาสนี้ ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ให้ความสำคัญและความสนใจต่อกิจการและการดำเนินการต่างๆ ของศาลยุติธรรม เพราะเมื่อผมเข้ารับตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อผมขอทราบความคิดเห็นในการกำหนดนโยบายของศาลยุติธรรมจากพี่น้องประชาชนชาวไทยแล้ว พี่น้องประชาชนชาวไทยได้กรุณาแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางและแนวนโยบายในการบริหารราชการศาลยุติธรรมอย่างหลากหลาย ผมขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยว่านอกจากการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของศาลยุติธรรมแล้ว ศาลยุติธรรมจะยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลยโดยคำนึงถึงเหยื่ออาชญากรรมและความสงบสุขของสังคม
ยกระดับมาตรฐานการพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อให้ความยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์และนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการอำนวยความยุติธรรม และการพิจารณาพิพากษาคดีโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน มีคำกล่าวที่ว่า 'ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือการปฏิเสธความยุติธรรม' ซึ่งศาลยุติธรรมก็ได้พยายามเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีอย่างเต็มกำลังความสามารถจนปรากฏผลงานดังที่ได้แจ้งให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว
นับจากนี้ศาลยุติธรรม จะยกระดับความยุติธรรมไปอีกขั้นหนึ่งคือ 'ความยุติธรรมต้องไม่มีวันหยุด' ผมจึงกำหนดนโยบายเร่งด่วนให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศทุกชั้นศาลเปิดทำการในวันหยุดราชการทุกวันเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้แก่ผู้ต้องหาหรือจำเลย และขอมอบการดำเนินการตามนโยบายนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน
ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน ขออัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ อีกทั้งเดชะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดบันดาลความสุขความสมปรารถนาแด่ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ มีกำลังกายกำลังใจ สติปัญญาความรู้และความสามารถที่เข้มแข็ง เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติของเราให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปสวัสดีปีใหม่ครับ"