ศาลนัดฟังคำพิพากษาชั้นฎีกาวันนี้ คดี"เบญจา หลุยเจริญ"อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากรพร้อมคนใกล้ชิด"คุณหญิงอ้อ"ช่วย"พานทองแท้-พินทองทา ชินวัตร"หลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ เมื่อปี 49 เป็นเงินกว่า 7.9 พันล้านบาท
วันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีพวกจำเลย ได้ช่วยเหลือนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชัน เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท ซึ่งถือเป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท
คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยที่ 1-4 คนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 จำคุก 2 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนฯ และจำเลยทุกคนได้รับการประกันตัว