MGR online - ยุติธรรม -คลัง-แบงก์ หารือเพื่อให้ความช่วยเหลือ หนุ่มถูกปลอมลายเซ็นต์ ถอนเงิน 8 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย หลังยืดเยื้อมา 11 ปี และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
วันนี้ (11 ธ.ค.) ห้องประชุมชั้น 9 กระทรวงยุติธรรม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเอกชัย แย้มสาหร่ายเลขานุการผู้ช่วยรัฐมนตรี นายนพพร ยี่โถ ตัวแทนธนาคารกรุงไทย นายสุวาทิตย์ ตั้งประเสริฐศิลป์ ตัวแทนกระทรวงการคลัง น.ส.สกุลรัตน์ วงษ์สำราญ นิติกรชำนาญการ และ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ผู้ร้อง ร่วมประชุมเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีถูกปลอมลายเซ็นต์เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารกรุงไทย จ.นครสวรรค์ เป็นเงินกว่า 8.3 ล้านบาท
นายสามารถ กล่าวว่า จากกรณี นายเอกวิชช์ ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรม หลังมีบุคคลปลอมลายเซ็นต์ชื่อไปทำธุรกรรมถอนเงินจากธนาคารกรุงไทย โดยทางธนาคารได้อนุมัติเงินดังกล่าวเข้าบัญชีบุคคลอื่น ทั้งที่ นายเอกวิชช์ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเองซึ่งเกิดเรื่องตั้งแต่ปี 51 โดยวันนี้มีการร่วมประชุม 3 ฝ่าย คือ กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และ ผู้ร้อง ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเป็นคนกลางในการหารือ สำหรับประเด็นการหารือเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยมีอำนาจมากน้อยแค่ไหนในการถอนหรือโอนเงินว่ามีระเบียบตามขั้นตอนอย่างไร และได้รับการชี้แจงจากทางธนาคารกรุงไทยว่าในการทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินต่างสาขาจะกระทำได้เพียงเจ้าของบัญชีเป็นผู้ดำเนินการเอง บุคคลอื่นไม่สามารถกระทำได้ ซึ่ง นายเอกวิชช์ ยืนยันว่าไม่เคยให้บุคคลใดไปทำธุรกรรมทางการเงินต่างสาขาแต่อย่างใด
นายสามารถ กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังมีหนังสือไปถึงธนาคารกรุงไทย เพื่อดำเนินการสอบถามระเบียบในการทำธุรกรรมของธนาคารกรุงไทย ว่ามีกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรเพื่อ จะได้มาหาข้อสรุปกันอีกครั้ง ในวันที่ 24 ม.ค.63 เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ผู้ร้องแพ้คดี โดยทางคู่กรณีอ้างว่าจะดำเนินการตามคำพิพากษาหลังศาลตัดสิน
นายนพพร เผยว่า ธนาคารกรุงไทยได้ทำการสอบสวนเรื่องราวร้องทุกข์ของนายเอกวิชช์แล้ว เบื้องต้นไม่พบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหา ที่ผ่านมาหากเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทุจริตหรือขัดระเบียดจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่และคืนเงินให้ลูกค้าทันที
ด้านนายเอกวิชช์ กล่าวว่า ตนร้องเรียนหลายหน่วยงานมา 11 ปี แล้ว และมาร้องกระทรวงยุติธรรม เพราะเป็นที่พึ่งสุดท้าย ต้องขอบคุณรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมที่รับเรื่องของตนมาช่วยเหลือ เพราะตนถูกคนอื่นปลอมลายเซ็นต์เบิกเงินประมาณ 8 ล้านบาทออกจากบัญชี แถมมีการเบิกต่างสาขาประมาณ 4.9 ล้านบาท ซึ่งขัดระเบียบของธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว แต่เมื่อไปร้องต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับแจ้งตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิด แล้วแบบนี้ประชาชนที่ไหนจะมีความมั่นใจเอาเงินไปฝากธนาคารกรุงไทยต่อไป