MGR online -ที่ประชุม ก.ต.มีมติตั้ง กก.สอบวินัยร้ายเเรง “ชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีต ปธ.เเผนกคดีล้มละลายศาลฎีกา เเทรกเเซง กระบวนการพิจารณาคดีมรดก ที่ศาลฉะเชิงเทรา พร้อมทบทวนไม่ตั้งเป็นผู้พิพากษาอาวุโส
วันนี้ (18 พ.ย.)ที่ห้องประชุมอาคารศาลยุติธรรม ชั้น 3 ศาลฎีกา นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ครั้งที่ 16/2562 มีวาระการพิจารณาเเต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาหลายตำเเหน่ง รวมถึงหลักเกณฑ์การจัดตั้งผู้พิพากษาอาวุโสเเละวาระอื่นๆ ยังมีวาระที่น่าสนใจ ดังนี้ คือ ก.ต.ได้มีการลงมติจากที่ คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.)ได้ทำลงมติเสียงข้างมาก13 ต่อ 4 (อ.ก.ต.เดิมมี 21 คนเเต่ตอนพิจารณาอยู่ในช่วงสับเปลี่ยนตำเเหน่งเลื่อนขั้นศาลทำให้เหลือ17คน) พร้อมทำความเห็นเสนอว่าการกระทำของ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีต ปธ.เเผนกคดีล้มละลายศาลฎีกา ในเหตุการคดีมรดกที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่กล่าวหาว่ามีการเเทรกเเซงการพิจารณาพิพากษาคดีในศาล เห็นควรที่จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายเเรง โดย ก.ต.ได้พิจารณาเเล้วมีมติ เสียงข้างมาก 12 ต่อ 2 เห็นควรตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายเเรง นายชำนาญ ตามที่ อ.ก.ต.เสียงข้างมากทำความเห็นมา
นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต.ยังมีการลงมติทบทวนมติ ก.ต.ครั้งที่ 9/2562 ที่ที่ประชุม ก.ต.มีมติให้นายชำนาญ ไปดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก 12-2 ให้ ก.ต.ทบทวนมติเรื่องที่จะให้นายชำนาญเป็นผู้พิพากษาอาวุโส ด้วย
เเละเมื่อมีการทบทวนเเล้ว หลังจากนั้น ก.ต.ยังได้มีการลงมติเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้นายชำนาญ เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก12 ต่อ 2 ไม่ผ่านให้นายชำนาญ ดำรงตำเเหน่งเป็นผู้พิพากษาอาวุโส
ทั้งนี้นายชำนาญ ระวิวรรณพงษ์ เคยถูกยื่นถอดถอนจากตำเเหน่ง ก.ต.ชั้นศาลฎีกา ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 42โดยผู้พิพากษาทั่วประเทศใช้สิทธิลงคะแนน เห็นชอบ ให้ถอดถอนนายชำนาญออกจากการเป็น ก.ต. ชั้นฎีกา รวมทั้งสิ้น 3,165 คะแนน จากบัตรลงคะเเนน 3,548 ใบจากกรณีกล่าวหาว่านายชำนาญส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย คุณธรรมและจริยธรรม หรือการกระทำที่น่าสงสัยว่ากระทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. ในกรณีที่อ้างถึงการก้าวก่ายแทรกแซงผู้พิพากษาศาลชั้นต้นในคดีมรดกครอบครัวภรรยาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา