MGR online - โฆษกศาลยุติธรรม เผย หลังมีมาตรการเข้มข้นรักษาความปลอดภัย พบทนายพกปืนเข้าบริเวณศาลจว.สมุย ถูกสั่งจำคุก 1 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล
วันนี้ (18 พ.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้รับรายงานจากศาลจังหวัดอ่างทองว่าในวันนี้เมื่อ เวลา 08.45 น. ผู้อำนวยการศาลจังหวัดอ่างทองได้รับแจ้งจากเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยประจำศาลฯ ว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่จุดประตูตรวจอาวุธได้ตรวจค้นตัว นายประสิทธิ์ วรรณโอสถ จำเลยในคดีหมายเลขดำที่อ.1582/2562 ข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส เเละจากการตรวจค้นตัวจำเลยพบอาวุธมีดพกพับได้ ขนาดยาว 7.5 นิ้ว พกอยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงได้ยึดมีดพกไว้ พร้อมกับนำตัวจำเลยไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลเพื่อควบคุมตัวไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ รายงานผู้อำนวยการศาลจังหวัดอ่างทองได้รายงานผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอ่างทองให้ได้รับทราบ พร้อมกับตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล
ศาลได้พิจารณาเป็นคดีละเมิดอำนาจลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหาเป็นเวลา 2 เดือน รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดี อ.ดำที่ 1582/2562 (ศาลลงโทษจำคุก 1 ปี) และริบอาวุธมีดของกลาง
นอกจากนี้ยังได้รับรายงาน น.ส.พรทิพย์ คงชู ผู้อำนวยการศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เวลา 11.00 น.ได้ตรวจได้พบอาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ขนาด 357 เลขหมายประจำปืน DKT9904 ยี่ห้อ SMITH & WESSON ซึ่งเป็นของนาย นิติ สุบิน อาชีพทนายความจึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว พร้อมรายงานหัวหน้าศาลจังหวัดสมุยเพื่อตั้งสำนวนละเมิดอำนาจศาลโดยศาลไต่สวนเเล้วพิพากษาให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหา มีกำหนด 2 เดือน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน
นายสุริยัณห์ กล่าวถึงการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบนำอาวุธหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในบริเวณศาลเนื่องด้วย นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกคำสั่งมาตรการรักษาความปลอดภัยความเรียบร้อยบริเวณศาล ส่งถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมให้ใช้เป็นแนวทางและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ซึ่งทุกศาลทั่วประเทศได้มีการตื่นตัว เเต่ละศาลก็มีการวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้นตามที่มีหนังสือคำสั่งลงไป ซึ่งเเต่ละศาลก็จะมีการรายงานผลกลับมาว่าได้มีการประชุมหรือปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไรบ้างเเล้ว นอกจากจะเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่เเล้ว ยังให้ทุกศาลติดประกาศเตือนประชาชนในเรื่องสิ่งที่ไม่ควรกระทำหรือของต้องห้ามในบริเวณศาล
ด้าน นาย ชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า สำหรับศาลอาญานั้นช่วงที่ตนเข้ามารับตำเเหน่งก็ได้มีการกำชับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวด เมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ศาลหลายพื้นที่ ก็กำชับให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ตนเองได้ให้นโยบายไปว่า ถ้าเป็นตนเองหากถือกระเป๋าเดินผ่านเข้าจุดตรวจค้นก็ควรตรวจค้นด้วย จุดอ่อนของศาลอาญาบางทีเจ้าหน้าที่อาจจะมีการตรวจที่หย่อนยานไปหน่อย ตนจึงให้นโยบายไปอีกว่าความสะดวกกับความปลอดภัยมันอยู่ตรงข้ามกันถ้าเราเอาสะดวกตรวจหย่อนยานหรือไม่ตรวจความปลอดภัยก็จะไม่มี ตนพยามทำความเข้าใจกับทุกคนว่า หากมารู้สึกอัดเวลาที่โดนตรวจค้นเยอะให้คิดว่านั่นแหละคือความปลอดภัย ในส่วนของตัวผู้พิพากษาที่มาปฏิบัติหน้าที่ในศาลอาญาเองก็จะมีประตูคีย์การ์ด ที่เป็นช่องทางเข้าต่างหาก ซึ่งตนก็ได้เน้นย้ำว่าประตูที่เป็นคีย์การ์ดสำหรับผู้พิพากษานั้นบางทีก็มีการเปิดค้างไว้ ตนจึงกำชับไว้ด้วยว่าประตูคีย์การ์ดให้ปิดหมดคนไม่มีก็จะไม่สามารถเข้าได้ ส่วนเรื่องการตรวจค้นจับกุมอาวุธได้เยอะในช่วงนี้ ในศาลอาญาเองก่อนเกิดเหตุก็มีการตรวจค้นจับกุมอาวุธได้เป็นมีดกับสนับมือ เเต่ก็ไม่ได้มีการเสนอข่าว หรือบางทีก็มีการตรวจค้นเจอยาเสพติด ตรงนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องไม่หละหลวมทำงานเข้มเเข็งตรวจจริงจัง ก็จะเป็นเรื่องดี ตรงนี้ตนอยากฝากถึงคนที่มาติดต่อราชการขอความร่วมมืออย่านำอาวุธของต้องห้ามมา ตรงนี้ขอเลย
“บางคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยพอมาศาลบ่อยบ่อยก็จะคุ้นหน้ากันความเข้มข้นก็จะน้อยลงโดยกำชับว่า คนนอกที่เราไม่รู้จักแต่ที่คุ้นเคยเพราะมาศาลบ่อยเราก็ต้องตรวจ เพราะเขาจะพกอาวุธมาวันไหนก็ไม่รู้ เราก็ต้องตรวจเข้มงวดทุกคน ในศาลอาญาเองก็ยังมีหลายจุดที่จะต้องปรับปรุงและเพิ่มเครื่องตรวจอาวุธซึ่งอยู่ระหว่างกำลังประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรม ว่าจะขอเครื่องตรวจอาวุธเเบบเต็มรูปเเบบมาซึ่งทางสำนักงานศาลก็ได้ให้ความร่วมมือดี ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อนจะทำเพิ่ม” นายชูชัย อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาลอาญามีความเข้มงวดขึ้นนอกจากจะตรวจค้นประชาชนทั่วไปผู้มาติดต่อราชการเเล้ว ยังตรวจค้นเจ้าหน้าที่ข้าราชการเเละผู้พิพากษาที่เดินผ่านจุดตรวจเข้าบริเวณอาคารศาลเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย