MGR Online - ศาลจังหวัดมีนบุรียกฟ้องนักสิทธิมนุษยชนผู้นำชาวกะเหรี่ยง หมิ่น “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” โพสต์พาดพิงครอบครองไร่ราชพฤกษ์ รุกป่า
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.6246/2561 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษพิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) โจทก์ร่วมยื่นฟ้องนายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ และนายวุฒิ บุญเลิศ หรืออาจารย์วุฒิ นักวิชาการอิสระที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าสินไหม
คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2559 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน นายสมัคร จำเลยที่ 1 ได้ใส่ความนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้เสียหาย โดยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กชื่อนายสมัคร ดอนนาปี ซึ่งผู้อื่นเข้าถึงได้ว่า “เรื่องหัวหน้าพญาเสี้ยม เจ้าของไร่ชัยราชพฤกษ์ ยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติตามโครงการ สทก (สิทธิทำกิน) แค่ไม่กี่ร้อยไร่...”ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2559 นายสมัคร จำเลยที่ 1 ยังได้โพสต์ข้อความต่อเนื่องลงในเฟซบุ๊กของตนเองอีก ทำนองว่า “ไร่ชัยราชพฤกษ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ถือครองตามมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 30 มิ.ย. 2541 รวม 100 ไร่ การตรวจสอบร้องเรียนโดยกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2559 อธิบดีกรมป่าไม้ (อดีต) ได้มีหนังสือรายงานการ ไร่ชัยราชพฤกษ์มีเนื้อที่ 100 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ..และอยู่ในพื้นที่สำรวจการถือครองตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2541 ซึ่งกรมป่าไม้ต้องทวงคืนพื้นที่ แต่อธิบดีกรมป่าไม้กลับเพิกเฉยไม่สั่งการใดๆ” ซึ่งนายวุฒิ จำเลยที่ 2 ได้ส่งต่อหรือแชร์ข้อความดังกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27-28 ส.ค. 2559 นายสมัคร จำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อผู้จัดการออนไลน์ ทำนองว่า “ไร่แห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี 100 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตรวจสอบกันยังไม่ถึงไหน บุกรุกป่าสงวนเอาไปสร้างรีสอร์ต” ข้อความดังกล่าวทำให้บุคคลที่ 3 เข้าใจและบุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าผู้เสียหายยึดถือครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ แต่ทำผิดเสียเอง โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ในวันนี้ทนายโจทก์ร่วม จำเลยทั้งสองพร้อมทนายจำเลยที่ 2 เดินทางมาศาล ส่วนโจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมที่นำสืบเเล้ว นังไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมตามฟ้อง และเมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามฟ้องย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์ร่วม จึงไม่ต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนตามที่โจทก์ร่วมตามคำร้อง พิพากษายกฟ้อง และยกคำร้องของโจทก์ร่วมที่ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวันนี้กรณีที่นายวุฒิ บุญเลิศ หรืออาจารย์วุฒิ นักวิชาการอิสระที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และนายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ถูกแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ในเรื่องที่นายวุฒิโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบไร่ชัยราชพฤกษ์ซึ่งอยู่ในเขตป่าที่มีชื่อพี่ชายของนายชัยวัฒน์เป็นผู้ครอบครอง จึงเป็นคดีขึ้นสู่ศาลอาญามีนบุรีซึ่งเป็นศาลชั้นต้น คดีหมายเลขดำที่ อ.6246/2561 คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยศาลเห็นว่าข้อความที่มีการโพสต์ตามที่นายชัยวัฒน์กล่าวอ้างตามคำฟ้อง ไม่ได้กล่าวถึงหรือมีพยานหลักฐานใดที่จะทำให้วิญญูชนหรือประชาชนทั่วไป อ่านแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นการกล่าวถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หรือเข้าใจได้ว่านายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองตามโพสต์ข้างต้น เป็นผู้ถือครองที่ดินแทนนายชัยวัฒน์ และเมื่อพิจารณาเนื้อหาตามโพสต์แล้ว ผู้โพสต์มุ่งหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบการครอบครองไร่ชัยราชพฤกษ์ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ถือว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง