xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนเส้นทางชีวิต! “อัสมา” อดีตอาจารย์สาวอนาคตดับวูบ รักหรือหลงคบผีพนัน แม่ผวาลูกถูกฆ่าปิดปาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อดีตอาจารย์สาวชีวิตดับวูบ กลายเป็นผีพนันเร่ร่อนหนีข้ามแดน ถูกอาจารย์โรงเรียนบดินทรเดชา 2 แจ้งจับ “ฉ้อโกง” เชิดเงินผู้ปกครองค่าเรียนพิเศษซัมเมอร์-ออกอุบายหลอกยืมเงินเพื่อนสนิท-ตุ๋นเพื่อนค้ำประกันเงินกู้เป็นหนี้นับล้าน... เปิดต้นตอหายนะที่มาพร้อมโต๊ะบอลออนไลน์ ลูกค้ากระเป๋าหนัก ขายสมบัติปรนเปรอแฟนหนุ่มซื้อบิ๊กไบค์ ใส่พานคอนโดฯ หรู

กลายเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่ในแวดวงบุคลากรทางการศึกษา หลังเพื่อนๆ คนสนิท และผู้ปกครองโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 รวมตัวแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.อัสมา ดำรงค์ผล อายุ 33 ปี หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ก่อเหตุเชิดเงินผู้ปกครองนักเรียนที่จะเดินทางไปเรียนพิเศษภาคฤดูร้อนที่ประเทศอังกฤษ รวมทั้งหลอกยืมเงินหลอกเซ็นเช็คค้ำประกันเงินกู้นอกระบบ และหลอกลงทุนกับบริษัท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

สำหรับ น.ส.อัสมา หรืออาจารย์อัส ถือเป็นอาจารย์สาวอนาคตไกลคนหนึ่ง หลังบิดาซึ่งเป็นคหบดีมุสลิมตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งใน ต.ท่าทราย จ.นนทบุรี เสียชีวิตลงได้ทิ้งมรดกหลายสิบล้านไว้ให้ลูกๆ ทางอัสมาเองได้รับมรดกจากพ่อมากว่า 20 ล้านบาท ด้านแม่ “อัสมา” สนับสนุนให้เธอได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เมื่อเรียนจบพร้อมพ่วงดีกรีเกียรตินิยมก็ได้เข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กระทั่งไต่เต้าเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษในที่สุด

ระหว่างที่สอนหนังสืออยู่นั้นก็ได้รู้จักสนิทสนมกระทั่งคบหาดูใจกับนายธนพัฒน์ อวยพร หรือ “เต้อ” อายุ 29 ปี ชาว จ.ชุมพร ลูกศิษย์คนหนึ่ง “เต้อ” เป็นชายหนุ่มที่ปากหวานเอาอกเอาใจเก่ง แต่ลึกๆ ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน อยากร่ำอยากรวยเหมือนคนหนุ่มสาวในวัยสร้างตัวทั่วไป เต้อเป็นชายหนุ่มแต่งตัวดูดีมีรสนิยม ขับรถบิ๊กไบค์ BMW คันงามที่ น.ส.อัสมาซื้อให้ขับอวดสาวๆ ดูเผินๆ เหมือนคนมีฐานะแถมมีคอนโดมิเนียมหรู Than Living ย่านถนนประชาอุทิศ

เปิดเผยตัวตน “เต้อ” มักบอกคนอื่นเสมอว่ามีบริษัทส่วนตัว แต่ก็ไม่ให้ใครทราบว่าบริษัทของเขาทำธุรกิจเกี่ยวอะไร แต่เพื่อนๆ ของอดีตอาจารย์สาว “อัสมา” พอรู้ระแคะระคายมาก็คือแฟนหนุ่มของอัสมา ชอบเล่นการพนันฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดกล้าเปิดโต๊ะแทงพนันออนไลน์เอง มีลูกค้าขาพนันกระเป๋าหนักขาประจำแทงพนันฟุตบอลออนไลน์ผ่านนายเต้อคู่ละแสนบาทถึงหลักล้านเลยทีเดียว

เผยแผนหาลูกค้า “อัสมา” ชวนกลุ่มเพื่อนๆ สนิทร่วมร่วมลงทุนหุ้นทำโต๊ะบอลออนไลน์กับแฟนหนุ่ม อ้างว่ามีกำไร 10-20 ล้านบาทต่อสัปดาห์ ถ้าไม่ลงทุนก็ให้มาแทงพนันฟุตบอลต่างประเทศ ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์หรือหาลูกค้ามา จะได้ค่าคอมมิชชัน 3-7 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้ถูกเพื่อนๆ ปฏิเสธและเตือนเขาไปว่าการพนันไม่ทำให้ใครรวยยั่งยืน

ต่อมาไม่นาน... อดีตอาจารย์กับแฟนหนุ่มเริ่มเป็นหนี้เป็นสินจากการพนัน เงินขาดมือชักหน้าไม่ถึงหลัง จนต้องขายสมบัติที่ได้รับจากมรดกมาใช้หนี้ ขายบ้านหลังเก่าใน จ.นนทบุรี บ้านที่สระบุรี รถเบนซ์ รวมทั้งยังแอบนำทองคำของแม่ไปขายเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ เหลือแค่บริษัทที่พานักเรียนนักศึกษาไปเรียนซัมเมอร์ต่างประเทศเท่านั้นที่ยังไม่ได้ขาย เพราะ “อัสมา” กู้เงินธนาคารมาซื้อโดยใช้ชื่อของเพื่อนคนอื่น

เมื่อผีพนันเขาสิงจนหมดหนทางลุกลามเหมือนเปลวเพลิง บริษัทที่ “อัสมา”ทำธุรกิจพานักเรียนมัธยม นักศึกษาไปเรียนพิเศษภาคฤดูร้อนต่างประเทศถึงคราวต้องล่มสลายกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง เมื่อทางผู้ปกครองและโรงเรียนบดินทรเดชา ติดต่อเลือกใช้บริการบริษัทของเธอให้พานักเรียนไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษแล้ว ก่อนจะรับเงินสดจำนวน 2.7 ล้านบาทจากโรงเรียนด้วยตัวเอง แต่เมื่อถึงวันเดินทางกลับเชิดเงินหนีหาย แถมซ้ำเติมบาปกรรมนำเอกสารสำคัญของเด็กนักเรียนทำธุรกรรมกู้เงินนอกระบบอีก 1 ล้านบาท ความแตกเมื่อเจ้าหนี้ติดต่อทวงถามตามรายชื่อในเอกสารธุรกรรมการเงิน

เงินที่หลอกลวงมาได้เท่าไหร่ก็ถมหนี้สินล้นพ้นเกินตัวไม่พอ อัสมาเริ่มถูกเจ้าหนี้ตามรังควานจนต้องย้ายที่พักบ่อยๆ กระทั่งมาก่อเหตุหลอกยืมเงิน และหลอกค้ำประกันเงินกู้จากเพื่อนสนิทไล่ตั้งแต่เพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัย และเพื่อนอาจารย์ที่ ม.กรุงเทพ จนทุกคนเอือมระอาในพฤติกรรมจึงมีการโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยเพื่อนคนอื่นๆ จนทราบว่ามีหลายคนตกเป็นเหยื่อก็ได้รวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ สน.บึงกุ่ม บางส่วนก็มาแจ้งความที่กองปราบปราม

เมื่อทราบเรื่องราวฉาวโฉ่ ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพต้นสังกัดก็คัดชื่ออาจารย์สาวอนาคตไกลออกจากสารบบบุคลากรของมหาวิทยาลัยทันที

ก่อนหน้านี้ อัสมาเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง เพราะเป็นคนมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าใครจะเดือดร้อนอะไรมา ช่วยได้เขาช่วยทันทีไม่มีอิดออด แต่ท่าทีเขาเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มคบหากับแฟนหนุ่ม

“ช่วงหลังๆ “อัสมา”ชอบโทร.มาขอยืมเงินเพื่อนๆ อ้างว่าเดือดร้อนเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ ถูกเจ้าหนี้ส่งคนมาคุกคาม พอถามกลับไปว่า “เต้อ” ไม่ช่วยอะไรเลยหรือ เขารีบปฏิเสธว่า “เต้อ” ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เชื่อว่า “อัสมา” รักแฟนคนนี้มาก ที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะรักและหลงแฟนหนุ่มคนนี้จนหัวปักหัวปำ ปกป้องแฟนหนุ่มคนนี้มาตลอด พอเพื่อนถามว่าเอาเงินไปใช้หนี้ให้แฟนหรือเปล่า เขาก็ปัดปฏิเสธ” เพื่อนอาจารย์สาวให้ข้อมูล

ทั้งนี้ก็มีเพื่อนบางคนก็ปฏิเสธเพราะยอดเงินที่อาจารย์สาวขอยืมนั้นไม่ใช่หลักพันหลักหมื่น แต่เป็นหลักล้านขึ้นไป เมื่อถูกขอร้องแกมอ้อนวอนจึงหาทางออกช่วยหานายทุนให้กู้และช่วยเซ็นเช็คค้ำประกันให้

“เขาโทร.มาร้องห่มร้องไห้ เล่าว่าบริษัทขาดสภาพคล่องเพราะทำโครงการส่งนักเรียนไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศอังกฤษ แต่ทางโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กยังไม่จ่ายค่าดำเนินการให้บริษัทจึงต้องหาเงินมาสำรองจ่ายค่าเดินทางและค่าที่พักไปก่อน เห็นเขาเดือดร้อนก็สงสารจึงให้การช่วยเหลือไม่คิดว่าจะมาทำร้ายกันได้ลงคอ” เพื่อนสาวคนเดิมกล่าว

“เพื่อนๆ ที่ถูกหลอกต่างพูดกันว่าที่เป็นแบบนี้เชื่อว่าแฟนหนุ่มน่าจะเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังโดยการชักชวน น.ส.อัสมาเล่นการพนัน หรือหลอกอัสมาให้กู้เงินมาจ่ายหนี้พนันให้ตนเองเพราะที่ผ่านมาอัสมาไม่เคยเล่นการพนันมาก่อนเลย เรื่องดังกล่าวหากจะโทษอัสมาเพียงฝ่ายเดียวก็ดูจะโหดร้ายเกินไป ที่เขาเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากนายเต้อแฟนหนุ่มด้วย” เพื่อนที่ถูกเธอทำให้เป็นหนี้โดยการค้ำประกันเงินกู้ 1.3 ล้านบาทกล่าว

หลังตกเป็นข่าวโด่งดัง น.ส.อัสมาก็ปิดโทรศัพท์หนี ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้อีกเลยแม้แต่คนในครอบครัว แต่เพื่อนบางคนยังคงติดต่อกับนายเต้อแฟนหนุ่มได้ เมื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายเต้อก็อ้างว่าได้เลิกราและไม่ได้ติดต่อกับอัสมามาสักพักแล้ว อีกทั้งนายเต้อยังอ้างว่าตัวเองก็ถูกอัสมาหลอกเอาเงินไป 2.5 แสนบาทอีกด้วย

นอกจากนี้ นายเต้อยังข่มขู่เพื่อนๆ ของอัสมาว่าอย่าลากตัวเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเลิกกับอัสมาได้สักพักแล้ว แถมยังขู่อีกว่าจะดำเนินการฟ้องร้องทุกคนที่ให้ข่าวกับสื่อฯ

แต่แล้วเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้จูงมือหนีไปฮ่องกงแล้วบินต่อไปอังกฤษด้วยกัน จึงเชื่อว่าทั้งสองอยู่ด้วยกันตลอดเวลา และมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด ส่วนตัวการสำคัญที่ทำให้ น.ส.อัสมาถูกแจ้งความดำเนินคดีเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากแฟนหนุ่ม

“เพื่อนๆ พร้อมให้อภัยเขานะ อยากให้เขามาเคลียร์ปัญหา ทุกอย่างมีทางออกเสมอ เรื่องเงินทองก็ค่อยมาผ่อนใช้เอา แม้ว่าเขาจะไม่เหลือทรัพย์สินอะไรแล้วก็ตาม” เพื่อนสาวคนสนิทคนหนึ่งของอาจารย์สาวกล่าว

ส่วนแม่วัย 70 กว่าปีก็ดีใจจนร้องไห้ ที่ทราบว่าบุตรสาวยังมีชีวิตอยู่ หลังเพื่อนโทร.ไปแจ้งข่าวว่า “อัสมา” หนีไปฮ่องกงและบินต่อไปประเทศอังกฤษพร้อมกับแฟนหนุ่ม ที่ผ่านมาแม่ของ “อัสมา” เครียดจนนอนไม่หลับเพราะไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้ หวาดกลัวสารพัดว่าลูกสาวซึ่งเป็นความหวังของครอบครัวจะถูกแฟนหนุ่มทำร้าย หรือโหดร้ายกว่านั้นคือ “ถูกฆ่าปิดปาก”

“ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยบอกอะไรให้แม่รับรู้ แม้แต่เรื่องคบหากับแฟนคนนี้ หรือเรื่องหนี้สิน พอมาทราบว่าลูกสาวถูกแจ้งความดำเนินคดีก็เกิดความทุกข์และพานไม่ชอบนายเต้อเอาเสียเลย เพราะทำลูกแม่ลำบาก กลัวลูกถูกฆ่า อย่างไรก็ตาม อยากให้ลูกกลับมาสู้คดี กลับมาหาแม่นะลูก” มารดาอัสมาพูดเสียงสั่นเครือในวันที่เพื่อนของอัสมาคนหนึ่งโทร.ไปแจ้งข่าวให้ทราบ

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งจับอาจารย์สาว อดีตหัวหน้าภาควิชามหาวิทยาลัยดัง หลอกลงทุนพาเด็กไปเรียนภาษาที่อังกฤษ
https://mgronline.com/crime/detail/9610000112918

เผ่นแล้ว “อัสมา ดำรงค์ผล” อดีตอาจารย์ ม.ดัง ผวาโดนจับหอบเงินหนีไปฮ่องกงแฟนหนุ่มบินตามhttps://mgronline.com/crime/detail/9610000113450

ปูด “อัสมา” เสียคนเพราะแฟนหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ ชวนเล่นพนันบอล จนก่อคดีฉ้อโกง
https://mgronline.com/crime/detail/9610000113779

แค่ออกหมายเรียก “อัสมา” ตุ๋นเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่อังกฤษ รอประสาน ตม.เผ่นฮ่องกงจริงหรือไม่ https://mgronline.com/crime/detail/9610000114468


กำลังโหลดความคิดเห็น