ชาว จ.พะเยา ร้องดีเอสไอ รับแชร์ลูกโซ่เป็นคดีพิเศษ เหตุมี อดีต รอง ปธ.สภาฯ อยู่เบื้องหลัง

MGR online - ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์น้ำมัน และแชร์เงินกู้ระหว่างประเทศ จ.พะเยา มูลค่าความเสียหาย 28 ล้านบาท ร้อง ดีเอสไอ ให้รับไว้เป็นคดีพิเศษ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อยู่เบื้องหลัง

วันนี้ (7 ส.ค.) เวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอนุรักษ์ วิจิตรพันธ์ ทนายความ และผู้ประสานงาน พร้อมด้วย กลุ่มผู้เสียหายจาก จ.พะเยา ประมาณ 11 ราย เดินทางยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ หลังถูกหลอกลวงให้เล่นแชร์น้ำมัน และเงินกู้ระหว่างประเทศ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง และพยายามบิดเบือนรูปคดีจากความจริง มูลค่าความเสียหายกว่า 28 ล้านบาท โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

นางศรีวรรณ แย้มพวง หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2557 มีเพื่อนสนิทชักชวนตนให้ร่วมลงทุนแชร์น้ำมัน ซึ่งมี น.ส.ประภพภร ฟองคำ เป็นแม่ทีม และเสนอตอบแทนรายได้ขึ้นลงอยู่ในอัตราราคาน้ำมันโลก โดยอ้างว่ามี อดีต ส.ส. จ.พะเยา และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมลงทุนด้วย ตนจึงลงทุนไปครั้งแรก จำนวน 1 แสนบาท ระยะแรกได้รับเงินตามกำหนด จึงชักชวนบุคคลอื่น ร่วมลงทุนด้วย

นางศรีวรรณ เผยอีกว่า ต่อมา น.ส.ประภพภร ได้เสนอให้ลงทุนหุ้นเงินกู้ระหว่างประเทศและหุ้นผักสด ส่วนตัวร่วมลงทุนไปแล้วประมาณ 15 ล้านบาท กระทั่งเมื่อเดือน มิ.ย. 59 ก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ประภพภร ได้อีกเลย ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจเอาผิด น.ส.ประภพกร พร้อมพวก รวม 5 คน ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และทางอัยการได้มีการสั่งฟ้อง จากนั้น เมื่อวันที่ 26 ก.ค.61 ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่เอาผิด น.ส.ประภพภร เพียงรายเดียว ในข้อหาฉ้อโกง และให้ชดใช้เงินค่าเสียหาย 29 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ตั้งแต่ปี มิ.ย 59 แต่ขณะนี้ยังไม่ยอมชำระหนี้คืนแก่ผู้เสียหาย

“ทั้งนี้ ไม่มีการเสนอแผนธุรกิจ หรือ การทำเอกสารหลักฐานการลงทุนที่ชัดเจน เนื่องจากความเชื่อถือและความไว้วางใจในตัวอดีต ส.ส. โดยกลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่ได้กู้เงินธนาคารเพื่อมาลงทุน แต่สุดท้ายไม่ได้รับเงินปันผล ทำให้ผู้เสียหายไม่มีเงินชำระคืนแก่ธนาคารและต้องเสียดอกเบี้ย ขณะนี้ถูกธนาคารติดตามยึดทรัพย์สินแล้ว ทำให้วันนี้จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมและอยากให้ ดีเอสไอ รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่”

ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำและข้อมูลจากผู้เสียหายผ่าน กองบริหารคดีพิเศษว่าเข้าข่ายเงื่อนไขคดีพิเศษหรือไม่ นอกจากนี้ ขอย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง การหลอกให้ร่วมระดมทุน การเสนอผลประโยชน์เงินปันผล อัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด