ดีเอสไอ ร่วม 8 หน่วยงานเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และยกระดับคุณภาพชีวิตคนใน จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับความเป็นธรรมถูกนายทุนฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินจากการทำสัญญาขายฝาก
วันนี้ (5 ส.ค.) ณ หอประชุมจังหวัดกาฬสินธุ์ ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และ คณะทำงานศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินกว่า 300 คน โดยมีผู้แทนจาก 8 หน่วยงาน เข้าร่วมรับฟังและแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ จังหวัดกาฬสินธุ์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์กรมหาชน) สภาเกษตรกร และ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้รับมอบภารกิจจากกระทรวงยุติธรรม ในการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สนับสนุน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างบูรณาการและยั่งยืน ตามโครงการ (Kalasin Happiness Model) “คนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยมีประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ประกอบด้วยกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการถูกกลุ่มนายทุนฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินจากการทำสัญญาขายฝาก กลุ่มชาวบ้านอำเภอท่าคันโท และ อำเภอกมลาไสย ถูกหลอกให้ชักชวนรวมกลุ่มกู้กันยืมเงินและภายหลังถูกฟ้องร้องให้ชำระหนี้ และเกษตรกรอีกหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปัญหาหนี้นอกระบบ
“นอกจากนี้ ได้จับมือกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด และ จังหวัดกาฬสินธุ์ ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน เช่น การทำสัญญากู้ยืมเงิน การขายฝาก การให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน การสร้างเครือข่ายเจ้าหน้าที่รัฐ สถาบันการศึกษาภาคประชาสังคม และ ภาคประชาชนในพื้นที่ ให้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์สร้างรูปแบบในการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปัญหาหนี้นอกระบบ โดยได้นำนวัตกรรม The Choice เกมทางเลือก-ทางรอด ซึ่งได้รับรางวัลการบริการภาครัฐระดับดีเด่น จาก กพร. เป็นเครื่องมือในการสร้างการเรียนรู้” พ.ต.ท.ประวุธ กล่าว
ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์มีสัดส่วนคนยากจนมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จึงได้รับมอบหมายจากรัฐบายให้เป็นจังหวัดนำร่องในการดำเนินนโยบายขจัดความยากจนให้หมดไปภายใน 4 ปี เพื่อจะทำรายได้เฉลี่ยของประชากรเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาหนี้เงินกู้นอกระบบและหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยปัญหาหนี้เงินกู้นอกระบบเป็นปัญหาที่มีสาเหตุหลักมาจาก 3 ปัญหาใหญ่ คือ 1. ปัญหาความยากจนของประชาชน 2. ปัญหาประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยาก และ 3. ปัญหาความไม่รู้จึงถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน
นายไกรสร เผยอีกว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มองเห็นความสำคัญของปัญหาหนี้เงินกู้นอกระบบ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและรูปธรรมและแบ่งมิติการทำงาน ออกเป็น 4 ด้าน คือ 1.การอำนวยความยุติธรรมไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ (ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, อัยการ, สคช., สำนักงานยุติธรรมจังหวัด และตำรวจภูธรจังหวัด) 2.ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสำหรับลูกหนี้ (กระทรวงการคลัง, ธ.ก.ส., ธนาคารออมสิน) 3.การฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบ (ฝ่ายปกครอง, คลังจังหวัด, ธ.ก.ส., ธนาคารออมสิน) และ 4.การป้องกันและบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้กระทำผิด (ฝ่ายทหาร, ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, ดีเอสไอ, สรรพากรพื้นที่ และยุติธรรมจังหวัด)
“ทั้งนี้ จังหวัดได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับนายทุนเจ้าหนี้อย่างเคร่งครัดโดยใช้มาตรการทางภาษีกับนายทุนและปราบปรามนายทุนนอกระบบในจังหวัดกาฬสินธุ์ให้หมดไป และสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมายและสนับสนุนส่งเสริมให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างทั่วถึง” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวทิ้งท้าย