ผบช.ก.ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตำรวจในสังกัดร่วม ตร.ในท้องที่ เร่งคลี่คลายคดีอุกฉกรรจ์ทุกคดี ทั้งฆาตกรรมที่ จ.ระนอง จ.ชลบุรี หรือน้องหญิงในพื้นที่อยุธยา วอนญาติพี่น้องผู้ต้องหาให้รีบติดต่อพาเข้ามอบตัวภายใน 7 วัน เพื่อต่อสู้ตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวถึงคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นหลายคดีในหลายพื้นที่ ว่า ในส่วนของคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิต ที่ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางตำรวจ บก.ป.ได้ลงพื้นที่ร่วมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีแล้ว และไม่ใช่เพียงคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็นคดีที่ จ.ระนอง หรือคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทาง บช.ก.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า คดีที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะใน จ.ระนอง และ จ.ชลบุรี ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ เหิมเกริม เคยก่อคดีในหลายพื้นที่ และอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชน รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป เมื่อพิจารณาแล้วว่าหากให้เพียงเจ้าหน้าที่ในท้องที่ดำเนินการแต่ฝ่ายเดียว อาจจะเกินกำลังและศักยภาพ ส่วนกลางอย่างตำรวจ บช.ก.ถึงต้องลงไปช่วยคลี่คลายคดี อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสำหรับผู้ก่อเหตุแล้ว ถ้ากล้ากระทำความผิดก็ต้องกล้าที่จะรับโทษ จึงให้โอกาสอยากให้รีบติดต่อเข้ามอบตัว เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย
ผบช.ก.กล่าวด้วยว่า ใครที่รู้จัก หรือเป็นญาติพี่น้องของผู้ต้องหา ขอให้รีบติดต่อพาเข้ามอบตัวภายใน 7 วัน คดีทั้งที่ จ.ระนอง และ จ.ชลบุรี จริงแล้วตำรวจท้องที่ก็ทำคดีได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งไหนที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ เราก็จะลงไปช่วยเหลือเขา ไปช่วยเรื่องการสืบสวนติดตามหาพยานหลักฐานในคดี ส่วนคนร้ายเมื่อกระทำความผิดแล้วเป็นหน้าที่เราจะต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ และทุกคดีตนสั่งการให้กำลังตำรวจในสังกัด บช.ก.ร่วมลงไปทำคดีทั้งหมด และมีความคืบหน้ารายงานเข้ามา แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด