MGR Online - เหยื่อแชร์ลูกโซ่กว่า 60 ราย ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ถูกหลอกลงทุนตั้งเป็นกลุ่มไลน์ ก่อนเจ้าของปิดบริษัทเชิดเงินหนี มีผู้เดือดร้อนกว่า 2 พันราย สูญ 20-30 ล้านบาท ล่าสุดรู้ตัวแล้วชาวตุรกี 1 คนร่วมกับ คนไทยอีก 3 คน อุปโลกน์เปิดบ้านเช่าจัดตั้งบริษัทจดทะเบียน ทำธุรกรรมโปรแกรมไลน์
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางพสิษฐ์อร์ วิวัฒวันปรีชา อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้เสียหายที่ถูกหลอกชักชวนให้ลงทุนลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ พร้อมผู้เสียหายจำนวนกว่า 60 ราย นำหลักฐานเข้ายื่นขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
นางพสิษฐ์อร์กล่าวว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนว่ามีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี โดยผู้ลงทุนต้องโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าของบริษัท เช่น ถ้าลงทุน 10,000 บาทจะได้กำไร 150 บาทต่อวัน ลงทุนเป็นเงินอย่างเดียวไม่ต้องขายสินค้าใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งมีค่าคอมมิชชันหากแนะนำสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุน เช่น ถ้าสมาชิกที่ตนเองแนะนำลงทุน 10,000 บาท จะได้ค่าคอมมิชชัน 1,500 บาท จึงตัดสินใจลงทุนและตรวจสอบบริษัทดังกล่าวก็พบว่าได้จดทะเบียนต่อกระทรวงพานิชย์ มีความน่าเชื่อถือ จึงรวมตัวกับเพื่อน 6 คน ตั้งเป็นกลุ่มไลน์ โดยตนเองลงทุนไป 30,000 บาท ตั้งใจว่าจะเบิกเงินค่าตอบแทนทุกสัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์ เมื่อติดต่อไปทางบริษัทอ้างว่าระบบล่มไม่สามารถถอนเงินได้ รอ 1 สัปดาห์ติดต่อไปอีกครั้ง ปรากฏว่าปิดบริษัทหนี ตนจึงรวมกลุ่มกับเพื่อนซึ่งทราบว่ามีหลายกลุ่มที่ถูกหลอกหลงเชื่อประมาณ 1,000-2,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 20-30 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปนำตัวคนร้าย ประกอบด้วย ชาวตุรกี 1 คน รวมทั้งคนไทยอีก 3 คนซึ่งเปิดบ้านเช่าจัดตั้งบริษัทจดทะเบียนที่เชื่อว่าเป็นขบวนการที่ร่วมกันหลอกลวงโดยมีพฤติการณ์ คือ ชาวตุรกีที่มีภรรยาเป็นหญิงไทย อ้างว่าเปิดบริษัททำธุรกรรมเกี่ยวกับการลงทุนที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนจำนวนสูง โดยให้ชาวไทยอีก 2 คนในขบวนการเป็นนายหน้าหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนมากผ่านการใช้โปรแกรมไลน์ ชักชวนให้ฝากเงินกับบริษัทฯ ที่มีการอุปโลกน์ขึ้นมา เรื่องนี้สร้างความเดือดร้อนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนถ้าจะลงทุนในลักษณะนี้ให้ตรวจสอบให้ตรวจอย่างละเอียดจากกระทรวงพาณิชย์ หรือสอบถามที่หมายเลข 1155 ในลักษณะที่จะมีการลงทุนออนไลน์