xs
xsm
sm
md
lg

หนีกบดานไทย 3 ปี “บิ๊กโจ๊ก” รวบหัวหน้าแก๊งระดับโลก เอฟบีไอต้องการตัว ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ อุ้ม-ฆ่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


หนีกบดานไทยร่วม 3 ปี ตำรวจโชว์ผลงานรวบหัวหน้าแก๊งลักพาตัวชาวโมซัมบิก ตามหมายจับแดงอินเตอร์โพล หลังตำรวจเอฟบีไอ ต้องการตัว ก่อเหตุอุกอาจในหลายประเทศ อุ้ม ฆ่า ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ โดยก่อเหตุมากกว่า 50 ครั้ง จ่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนกการในไทย

หลังประเทศสหรัฐอเมริกา ประสานมายังประเทศไทย ให้ช่วยติดตามตัวนาย Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ผู้ต้องหาตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ในคดีอุกฉกรรจ์ ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ มีความผิดข้อหาครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของประเทศโมซัมบิกเป็นอย่างมาก โดยประเทศโมซัมบิกได้มีการประสานไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกา ให้ประสานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

วันนี้ (29 ก.ค.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลการจับกุม นาย Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ผู้ต้องหาตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ในคดีอุกฉกรรจ์ ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ มีความผิดข้อหาครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของประเทศโมซัมบิกเป็นอย่างมาก โดยประเทศโมซัมบิกได้มีการประสานไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกา ให้ประสานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้ชื่อในหนังสือเดินทางว่า MR.SAHIME MOHAMMAD ASLAM กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบว่ามีชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา ปรากฏตัวอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมแมริออท ซอยสุขุมวิท 57 จึงแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งชายดังกล่าวไม่สามารถแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ไปส่งตรวจพิสูจน์ ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือตามหมายแดงของอินเตอร์โพล และพบว่า เป็นลายนิ้วมือเดียวกับผู้ต้องหา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นลักษณะบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนาน 3 ปีแล้ว

“ทางการโมซัมบิก ยืนยันว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ในระยะเวลาประมาณ 3 ปี ยังได้มีการสั่งให้องค์กรของตนดำเนินการลักพาตัวและเก็บค่าไถ่บุคคลต่างๆ ในประเทศโมซัมบิก และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา และยังแจ้งอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นระดับหัวหน้าองค์กร จะสั่งการให้ลูกน้องไปลักพาตัวนักธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศโมซัมบิก เพื่อไปเรียกค่าไถ่ มากกว่า 50 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเรียกค่าไถ่เป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท หากไม่ได้รับเงินจะฆาตกรรมเหยื่อ โดยมีเหยื่อถูกฆาตกรรมไปแล้วสองราย และยังได้มีการทำร้าย และฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ของทางการโมซัมบิกและครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเอาผิดกับองค์กรนี้ โดยเฉพาะอัยการที่สั่งฟ้องผู้ต้องหารายนี้ ได้ถูกฆาตกรรมโดยการยิงศีรษะถึง 16 นัด ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของเจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนเป็นอย่างมาก” รอง ผบช.ทท.ระบุ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ จะขึ้นแบล็กลิสต์ผู้ต้องหารายนี้ถาวร ไม่ให้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้อีก โดยจะส่งตัวกลับประเทศโมซัมบิก ภายในสัปดาห์หน้า และจะขยายผลถึงลูกน้องที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น