xs
xsm
sm
md
lg

ศาลคดีทุจริตรับฟ้อง “ธาริต” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบใส่ร้าย “สมคิด บุญถนอม” คดีอุ้มฆ่าอัลลูไวลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลอาญาคดีทุจริตประทับฟ้อง “ธาริต” อดีตอธิบดีดีเอสไอ กับลูกน้อง ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หลัง “สมคิด บุญถนอม” อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ยื่นฟ้องเหตุกลั่นแกล้ง ร้องถอนประกัน-พาพยานคดีอุ้มฆ่าอัลลูไวลีไปต่างประเทศ

วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งในคดี อท.61/2559 ที่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจเเห่งชาติ และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี ได้ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ และพ.ต.ท.สุวิชชัย หรือเกียรติกรณ์ แก้วผลึก เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สร้างหลักฐานการคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเเจ้งความอันเป็นเท็จต่อศาล

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่านายธาริตซึ่งดำรงตำเเหน่งอธิบดีเอสไอในขณะนั้นกับพวกได้มีคำสั่งให้มีการนำ พ.ต.ท.สุวิชชัย หรือเกียรติกรณ์ แก้วผลึก พยานโจทก์ในคดีการหายตัวไปของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ศาลอาญาให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยสายการบิน ey402 ทั้งที่ พ.ต.ท.สุวิชชัยนั้นเป็นจำเลยที่ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีร่วมฆ่าฯ เชื้อพระวงศ์ลาว ซึ่งศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศไว้ แต่ภายหลังจำเลยกลับมายื่นคำร้องขออนุญาตศาลอาญาให้ส่งประเด็นไปสืบต่างประเทศ โดยอ้างว่าพบพยานดังกล่าวหลบหนีหมายจับไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์อนุญาตส่งประเด็นไปสืบต่างประเทศ ทั้งที่ความจริงเเล้วตอนนั้นพยานโจทก์ปากดังกล่าวพำนักอยู่ในไทย แต่อัยการโจทก์ไม่สามารถนำตัวมาเบิกความที่ศาลอาญาโดยเปิดเผยได้ เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิชชัย เป็นจำเลยหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรี นายธาริตกับพวกซึ่งทำหน้าที่รายงานความคืบหน้าการส่งประเด็นไปสืบพยานต่างประเทศตามคำสั่งศาลอาญาในขณะนั้นเป็นผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ พ.ต.ท.สุวิชชัย เเละเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกสองคนเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อดำเนินการสืบพยานลับหลังจำเลยในคดีการหายตัวไปของ นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี ด้วยช่องทาง พ.ร.บ.ร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาฯ ซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะความจริงแล้ว การสืบพยานต่างประเทศด้วย พ.ร.บ.ดังกล่าว จะต้องเป็นกรณีที่พยานมีภูมิลำเนาต่างประเทศ มิใช่เกิดจากการนำพยานเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อให้เข้าเงื่อนไขการส่งประเด็นไปสืบ แต่กลับเเจ้งต่อศาลว่าพบพยานดังกล่าวหลบหนีหมายจับอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ต่อมาโจทก์ได้ตรวจสอบพบว่าจำเลยทั้งสามในฐานะตัวการเเละผู้สนับสนุน ร่วมกันสร้างพยานหลักฐานการคุ้มครองพยานมาตรการพิเศษ โดยอ้างว่าโดนโจทก์ข่มขู่พยาน เพื่อเป็นข้ออ้างแก้ตัว กรณีโดนโจทก์ร้องคัดค้านการนำพยานปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย เดินทางออกนอกประเทศ ว่าเป็นการคุ้มครองพยานเพื่อนำไปสืบพยานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอ้างเป็นหลักฐานแจ้งต่อศาล ให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวแก่โจทก์ทั้งสอง จึงเท่ากับจำเลยมีเจตนาพิเศษกลั่นแกล้งเพื่อให้โจทก์ถูกศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวในขณะนั้น หากศาลเชื่อตามคำร้องเท็จของจำเลย โดยคดีนี้มีการยื่นฟ้องไว้ตั้งแต่วันที่ 7สิงหาคม 2557 มีการไต่สวนมูลฟ้องจนนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ซึ่งในวันนี้โจทก์และทนายความเดินทางมาศาลส่วนฝ่ายจำเลยไม่เดินทางมา

ด้าน พล.ต.ท.สมคิดกล่าวภายหลังฟังคำสั่งว่า ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลางได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องจำเลยทั้งหมดแล้ว ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเเจ้งความเท็จต่อศาล ส่วนข้อหาอื่นเช่นหลักฐานการคุ้มครองพยานอันเป็นเท็จจะอยู่ในกระบวนการพิจารณาที่จะต้องนำสืบต่อไป ซึ่งข้อหาสร้างหลักฐานการคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ อันเป็นเท็จ ที่ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยเพราะจะเป็นการลึกลงไปในชั้นพิจารณาคดีซึ่งที่ผ่านมาเป็นแค่การไต่สวนมูลฟ้องให้เห็นว่าที่นายธาริตยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนประกันตนเป็นการแจ้งความเท็จต่อศาลเเละเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 9 ตุลาคมนี้โดยในวันนัดสอบคำให้การดังกล่าวนายธาริตกับพวกต้องให้การต่อศาลว่าจะสารภาพหรือปฏิเสธ หากปฏิเสธก็ต้องเตรียมเรื่องประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี

พล.ต.ท.สมคิดกล่าวถึงคดีที่ตกเป็นจำเลยคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งภายหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ความจริงแล้วคดีนี้เป็นคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่อัยการสูงสุดในขณะนั้นลงนามรับรองให้ฎีกา


กำลังโหลดความคิดเห็น