xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิม” รุดเยี่ยม “ลูกวัน” ถูก ตร.กองปราบควบคุมตัวคดีทำร้ายทายาทร้านทองแม่ทองสุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้าเยี่ยมบุตรชายที่กองปราบปราม
นักการเมืองคนดังฝั่งธน “เฉลิม อยู่บำรุ่ง” เข้าเยี่ยม “วัน อยู่บำรุง” ลูกชาย ถูกตำรวจกองปราบควบคุมตัว หลังเข้ามอบตัว เหตุทำร้ายทายาทร้านทองแม่ทองสุก จากการที่ไปทะเลาะกับลูกชายที่สิงคโปร์

ที่ กองปราบปราม หลังจากเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ นายวัน อยู่บำรุง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ซอยเอกชัย 118 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กทม.บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตนักการเมืองชื่อดังฝั่งธนบุรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.409/2561 ลงวันที่ 19 ก.ค.2561 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้การกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเพื่อส่งศาลฝากขังต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้เสียหาย คือ นายภานุวัฒน์ หรืออั๋น ปุณณรัตนกุล อายุ 34 ปี นักธุรกิจทายาทร้านทองรุ่นที่ 2 “แม่ทองสุก” ได้เข้าไปเที่ยวที่ร้านเดโม่ผับ ซ.ทองหล่อ 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังจากร้านเลิก ผู้เสียหายกับเพื่อนก็ได้เดินมาที่ลานจอดรถ ก็ได้พบกับกลุ่มของนายวัน ซึ่งมาพร้อมกับบุตรชาย คือ นายอาชวิน หรือ กาโม่ อยู่บำรุง นายยศพัฒน์ หรือ ปุ้ย สัมพันธ์ชัย และยังมีผู้ติดตามมาอีก 7-8 คน

เมื่อเจอหน้ากันนายวันก็เรียกนายภานุวัฒน์เข้ามาคุยด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปมีปัญหากับ นายอาชวิน บุตรชาย ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาหา นายวัน ก็ใช้มือตบไปที่หน้าอกของนายภานุวัฒน์เบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นรถ ปรากฏว่า เมื่อนายภานุวัฒน์เดินขึ้นรถเก๋งส่วนตัวไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงนายวันร้องเรียกให้นายภานุวัฒน์ลงมาหาอีก แต่ครั้งนี้นายวันกลับไม่พูดอะไร ก่อนจะใช้หมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าของนายภานุวัฒน์หลายครั้ง ซึ่งผู้เสียหายก็พยายามจะใช้มือปัดป้อง แต่ก็ถูกต่อยจนล้มลง พอจะลุกขึ้นยืนก็ถูกนายยศพัฒน์ชักอาวุธปืนออกจากเอวขึ้นมาข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายสู้ ขณะนั้นก็ยังถูกนายอาชวินเข้ามาเตะซ้ำอีก เสร็จแล้วนายยศพัฒน์ก็ยังยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เพื่อนของผู้เสียหาย เพื่อไม่เข้ามาช่วยเหลือ หลังลงมือเสร็จแล้ว กลุ่มของนายวันก็ขึ้นรถขับออกไปจากที่เกิดเหตุทันที

หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับเข้าร้องเรียนที่กองปราบปราม เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล ต่อมาพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม จึงได้ขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอออกหมายจับ กระทั่งผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวดังกล่าว ภายหลังเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามก็ได้เร่งสอบปากคำนายวัน พร้อมกันนี้ ก็ยังอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาจะเรียกตัวผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์มาดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้เสียหาย คือ นายภานุวัฒน์ นั้น เมื่อปี 2559 ก็เคยมีปัญหากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 29 สิงหาคม 2559 ขณะที่ ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ สุพรรณเภสัช รอง สวป.สน.ทองหล่อ ในขณะนั้น พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม กำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบได้รับแจ้งจากทางร้านอาหารชาการิกิ ตั้งอยู่เลขที่ 432 ระหว่างซอยทองหล่อ 14-16 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ว่า มีลูกค้านำอาวุธปืนออกมาโชว์พร้อมทั้งสูบบุหรี่ จนเป็นสาเหตุให้แขกที่เดินทางเข้ามาใช้บริการเกิดความกลัว จึงนำกำลังรุดเข้าไปตรวจสอบ

เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งกันอยู่จำนวน 5 ราย แบ่งเป็นชาย 3 ราย และหญิง 2 ราย เมื่อเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย พบว่า 2 ใน 3 ของฝ่ายชาย ซึ่งเป็นเจ้านายกับคนขับรถพกพาอาวุธปืนยี่ห้อเอสทีไอ ขนาด.45 และยี่ห้อซีแซด ขนาด 7.65 และเครื่องกระสุนปืน พร้อมใช้งานคนละกระบอก ทราบชื่อต่อมาคือ นายภานุวัฒน์ หรือ อั๋น ปุณณรัตนกุล อายุ 32 ปี นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง และทายาทร้านทองรุ่นที่ 2 “แม่ทองสุก” และ นายสุปรีชา บุญยง อายุ 34 ปี จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ทองหล่อ

หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ ยังโพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ajiravedh Subarnbhesaj โดยระบุข้อความว่า ไปจับกุมชาย 2 คน ที่พกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ สุดท้ายชายคนหนึ่งอ้างว่าตนเองเป็นลูกทหารยศพลเอกนายหนึ่ง ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ จึงให้ชายคนนั้นโทรศัพท์ไปหาพลเอกนายนั้น ผลสรุปว่าไม่ได้เป็นลูกพลเอกจริงๆ แต่พลเอกนายนั้นเป็นพ่อของเพื่อนเท่านั้น ซึ่งพลเอกนายดังกล่าวยังกำชับให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ โดย ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ ยังกล่าวแก่ชายที่อ้างตัวคนดังกล่าวด้วยว่า พ่อของตนก็เป็นพลเอกเช่นกัน แต่ไม่เคยเอาชื่อพ่อไปอ้างอวดเบ่งที่ไหน

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พร้อมผู้ติดตาม เดินทางมาเพื่อติดต่อ ขอเข้าเยี่ยม นายวัน อยู่บำรุง บุตรชายโดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เดินทางมาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบริเวณชั้น 2 กองปราบปรามทันที

จากนั้นเวลา 16.30 น. นายอาจหาญ อยู่บำรุง ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายวัน อยู่บำรุง น้องชาย โดยนายอาจหาญกล่าวว่า ตนทราบข่าวจากอินเตอร์เน็ตและเพิ่งได้คุยกับญาติที่เดินทางมาถึงก่อนหน้า ทราบว่าจะสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาได้ถึงแค่ 17.00น.เท่านั้น จึงรีบเดินทางมาเยี่ยมน้องชาย ขณะที่ตอนแรกตั้งใจจะไปทำงานแล้วค่อยมาเยี่ยม ทั้งนี้จะมีรายละเอียดอื่นใดนั้นตนยังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทาง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ นายวัน มาก่อน

พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เปิดเผยว่า ขณะนี้นายวัน อยู่บำรุง อยู่ในความควบคุมในห้องควบคุมภายในกองปราบปราม หลังจากทางพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าในดำเนินการฝากขังในวันที่ 24 กรกฎาคม ทั้งนี้ในส่วนของการให้ประกันตัวหรือไม่นั้นก็เป็นดุลยพินิจของทางพนักงานสอบสวนและทางพ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ซึ่งตนได้เน้นย้ำหากทางตัวของนายวัน และครอบครัวอยู่บำรุงจะทำการยื่นประกันตัวก็ให้รายงานมาให้ตนทราบ ซึ่งการประกันตัวสามารถประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการพูดคุยระหว่างตนและ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชัย ก่อน

ต่อมาเมื่อเวลา 17.45น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายอาญหาญ อยู่บำรุง ได้เดินลงมาจากบริเวณชั้นสอง ของที่ทำการกองปราบปราม ซึ่งทันทีทั้งสองพบกับกองทัพสื่อมวลชนที่ดักรออยู่บริเวณด้านล่าง ก็ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์โดยตอบเพียงว่า ถ้าปลดล็อกการเมืองเมื่อไหร่จึงจะให้สัมภาษณ์

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นประกันตัวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าให้มันเป็นไปตามขั้นตอน ตนเคยอยู่ที่นี่มาก่อนตั้ง 11 ปี ส่วนจะมีการเตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวเป็นจำนวนเท่าไหร่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ โดยให้ไปถามกับทนายเอาเอง ก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับทันที

ขณะที่นายอาจหาญ อยู่บำรุง พี่ชายของนายวัน อยู่บำรุง ระบุว่าไม่มีความเห็นต่อประเด็นยื่นประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งขอให้ถามทางทนายความส่วนตัวของนายวัน อยู่บำรุงจะดีกว่า พร้อมระบุว่า “ขอตัวกลับบ้านก่อน เจอกันหลังเลือกตั้ง”

วัน อยู่บำรุง ขณะเดินทางเข้ามอบตัวตามหมายจับต่อตำรวจกองงปราบปราม
วันอยู่ บำรุง ถึงกับหน้าจ๋อย หลังตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น