MGR Online - “วัน อยู่บำรุง” บุตรชายคนรองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มอบตัวคดีทำร้ายร่างกายแก๊งคู่อริ หลังเข้าไปเคลียร์ปัญหาให้ “กาโม่” ลูกชาย
วันนี้ ( 23 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.00 น. นายวัน อยู่บำรุง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ซอยเอกชัย 118 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กทม.บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตนักการเมืองชื่อดังฝั่งธนบุรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.409/2561 ลงวันที่ 19 ก.ค.2561 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้การกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายคือนายภานุวัฒน์ หรืออั๋น ปุณณรัตนกุล อายุ 34 ปี นักธุรกิจทายาทร้านทองรุ่นที่ 2 “แม่ทองสุก” ได้เข้าไปเที่ยวที่ร้านเดโม่ผับ ซ.ทองหล่อ 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังจากร้านเลิก ผู้เสียหายกับเพื่อนก็ได้เดินมาที่ลานจอดรถ ก็ได้พบกับกลุ่มของนายวัน ซึ่งมาพร้อมกับบุตรชายคือนายอาชวิน หรือกาโม่ อยู่บำรุง นายยศพัฒน์ หรือปุ้ย สัมพันธ์ชัย และยังมีผู้ติดตามมาอีก 7-8 คน
เมื่อเจอหน้ากันนายวันก็เรียกนายภานุวัฒน์เข้ามาคุยด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปมีปัญหากับ นายอาชวิน บุตรชายที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาหา นายวันก็ใช้มือตบไปที่หน้าอกของนายภานุวัฒน์เบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นรถ ปรากฏว่าเมื่อนายภานุวัฒน์เดินขึ้นรถเก๋งส่วนตัวไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงนายวันร้องเรียกให้นายภานุวัฒน์ลงมาหาอีก แต่ครั้งนี้นายวันกลับไม่พูดอะไรก่อนจะใช้หมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าของนายภานุวัฒน์หลายครั้ง ซึ่งผู้เสียหายก็พยายามจะใช้มือปัดป้อง แต่ก็ถูกต่อยจนล้มลง พอจะลุกขึ้นยืนก็ถูกนายยศพัฒน์ชักอาวุธปืนออกจากเอวขึ้นมาข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายสู้ ขณะนั้นก็ยังถูกนายอาชวินเข้ามาเตะซ้ำอีก เสร็จแล้วนายยศพัฒน์ก็ยังยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เพื่อนของผู้เสียหาย เพื่อไม่เข้ามาช่วยเหลือ หลังลงมือเสร็จแล้วกลุ่มของนายวันก็ขึ้นรถขับออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับเข้าร้องเรียนที่กองปราบปราม เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล ต่อมาพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม จึงได้ขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอออกหมายจับ กระทั่งผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวดังกล่าว ภายหลังเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามก็ได้เร่งสอบปากคำนายวัน พร้อมกันนี้ก็ยังอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาจะเรียกตัวผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์มาดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้เสียหายคือนายภานุวัฒน์ นั้นเมื่อปี 2559 ก็เคยมีปัญหากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 29สิงหาคม 2559 ขณะที่ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ สุพรรณเภสัช รอง สวป.สน.ทองหล่อ ในขณะนั้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม กำลังปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบได้รับแจ้งจากทางร้านอาหารชาการิกิ ตั้งอยู่เลขที่432 ระหว่างซอยทองหล่อ 14-16 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ว่ามีลูกค้านำอาวุธปืนออกมาโชว์พร้อมทั้งสูบบุหรี่ จนเป็นสาเหตุให้แขกที่เดินทางเข้ามาใช้บริการเกิดความกลัว จึงนำกำลังรุดเข้าไปตรวจสอบ
เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งกันอยู่จำนวน 5 ราย แบ่งเป็นชาย 3 ราย และหญิง 2 ราย เมื่อเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายพบว่า 2 ใน 3 ของฝ่ายชายซึ่งเป็นเจ้านายกับคนขับรถพกพาอาวุธปืนยี่ห้อเอสทีไอ ขนาด.45 และยี่ห้อซีแซด ขนาด7.65 และเครื่องกระสุนปืนพร้อมใช้งานคนละกระบอก ทราบชื่อต่อมาคือนายภานุวัฒน์ หรืออั๋น ปุณณรัตนกุล อายุ 32 ปี นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง และทายาทร้านทองรุ่นที่ 2 “แม่ทองสุก” และนายสุปรีชา บุญยง อายุ 34 ปี จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สน.ทองหล่อ
หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ ยังโพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ajiravedh Subarnbhesaj โดยระบุข้อความว่า ไปจับกุมชาย 2 คน ที่พกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ สุดท้ายชายคนหนึ่งอ้างว่าตนเองเป็นลูกทหารยศพลเอกนายหนึ่ง ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ จึงให้ชายคนนั้นโทรศัพท์ไปหาพลเอกนายนั้น ผลสรุปว่าไม่ได้เป็นลูกพลเอกจริงๆ แต่พลเอกนายนั้นเป็นพ่อของเพื่อนเท่านั้น ซึ่งพลเอกนายดังกล่าวยังกำชับให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ โดย ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ ยังกล่าวแก่ชายที่อ้างตัวคนดังกล่าวด้วยว่า พ่อของตนก็เป็นพลเอกเช่นกัน แต่ไม่เคยเอาชื่อพ่อไปอ้างอวดเบ่งที่ไหน