รอง ผบช.น.เผยศพสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นอวัยวะ 14 ชิ้น ยัดใส่ถุงปุ๋ยทิ้งริมถนนซอยสามวา เขตบางชัน พบศีรษะถูกทุบเป็นแผลลึก 5 แห่ง ก่อนถูกหั่นเป็นท่อนๆ ในกระเพาะไม่พบเศษอาหาร คาดเหยื่อโดนทรมานให้อดข้าวอดน้ำ เจอเบาะแสชุดชั้นในผลิตในประเทศจีน เสื้อนักท่องเที่ยว “ที่นี่..ชะอำ” ประสาน ตร.ภ.7 หาข้อมูล คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน
จากกรณีเจ้าหน้าที่พบอวัยวะศพผู้หญิงผมแดงถูกหั่น 14 ชิ้น ใส่ถุงปุ๋ยทิ้งริมถนนซอยสามวา แขวงบางขัน เขตคลองสามวา กทม.
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม สน.มีนบุรี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดี โดยมี พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พร้อมชุดสืบสวนเพื่อหาแนวทางการสืบสวนในคดีดังกล่าว ใช้เวลาการประชุม 2 ชั่วโมง
หลังเสร็จประชุม พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแสคนร้ายและตรวจสอบผู้เสียชีวิตเป็นใคร จากหลักฐานเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นผู้หญิงผิวขาว คาดว่าจะเป็นคนเอเชีย พบที่ศีรษะศพมีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็ง 5 แห่งจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายใช้มีดหั่นศพเป็นท่อนๆ เพื่อแยกร่างนำมาทิ้งอำพรางไว้ จากการตรวจสอบร่องรอยบาดแผลที่ถูกตัดออกพบว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธชำแหละอวัยวะอย่างชำนาญและมีความรู้
ส่วนในถุงปุ๋ยที่ใส่ชิ้นส่วนเหยื่อมานั้น พบเสื้อผ้าซึ่งจะสืบหาแหล่งที่ผลิตให้ชัดเจน ส่วนเสื้อยืดที่เขียนข้อความว่า “ที่นี่..ชะอำ” นั้นน่าจะเป็นของที่ระลึกซึ่งนักท่องเที่ยวชอบซื้อใส่กัน โดยอยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 7 หาแหล่งที่ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าดังกล่าวพร้อมทั้งได้ประสานกับทางสถานทูตต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบว่าได้รับแจ้งบุคคลในชาติตัวเองหายตัวไปหรือไม่
พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวอีกว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะรอผลตรวจจากทางนิติเวชอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนของกระเพาะอาหารว่ามีการกินอาหารใดไป เพราะทำให้ทราบช่วงเวลาการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.จะเดินทางฟังความคืบหน้าการประชุมสรุปความคืบหน้าคดีอีกครั้ง ในวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 16.00 น. ที่ สน.มีนบุรี
ขณะเดียวกัน ในจุดเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำสุนัขตำรวจจำนวน 2 นาย ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อหาส่วนท่อนแขนขวาที่ยังหาไม่พบในจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ โดยสุนัขตำรวจดมหากลิ่นตั้งแต่จุดที่พบชิ้นส่วนและบริเวณใกล้เคียงเป็นระยะทางประมาณ 30 เมตร แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วและมีลมพัด อาจส่งผลให้สุนัขตำรวจสับสนจากการดมกลิ่น จึงต้องให้สุนัขดมไปโดยรอบ ก่อนจะให้กลับไปยังจุดเกิดเหตุอีกรอบ และให้ทางอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทรเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาท่อนแขนดังกล่าว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบท่อนแขนขวาที่หายไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ตายน่าจะเป็นคนสัญชาติจีนเนื่องจากเสื้อผ้าโดยเฉพาะชุดชั้นในที่พบในจุดเกิดเหตุ มีป้ายข้อความระบุว่าทำจากประเทศจีน สำหรับการตรวจกระเพาะอาหารเบื้องต้นไม่พบว่ามีอาหารอยู่ในกระเพาะเลย
โดยทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่ากลิ่นเหม็นจากกระเป๋าดังกล่าวโชยส่งกลิ่นมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่พลเมืองดีสงสัยและตรวจดูกระเป๋าในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับท่อนแขนขวาที่หายไปนั้น มีความเป็นไปได้ว่า ท่อนแขนดังกล่าวอาจมีตำหนิรอยสักรูปพรรณสัณฐานที่สามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตได้ จึงไม่นำมาทิ้งร่วมกับชิ้นส่วนอวัยวะ แต่แยกไปทิ้งอีกที่ ทั้งนี้ชิ้นส่วนที่พบอยู่ในถุงปุ๋ยห่ออย่างดี จึงตัดประเด็นว่าจะมีสัตว์มาคุ้ยเขี่ยกินชิ้นส่วนศพไป
